Bank of America กล่าวว่า ระดับเงินสดที่สูงเป็นประวัติการณ์ สะท้อนว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจภาวะกระทิงของตลาดหุ้นปี 2023
นักลงทุนยังไม่กลับเข้ามาลงทุนในตลาดที่น่าจะเป็นเป็นขาขึ้นในปีนี้ หลังจากเทขายอย่างรุนแรงจนทำลายมูลค่าตลาดหลายล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยุ่ในระดับสูง เงินสดที่ถืออยู่ในกองทุนตลาดเงินได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.8 ล้านล้านดอลลาร์
Michael Hartnett แห่ง Bank of America กล่าวว่า “นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ” เนื่องจากกองทุนรวมตลาดเงินขณะนี้ให้ผลตอบแทนประมาณ 4%
กระแสเงินทุนไหลเข้าตราสารหนี้และตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่มากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงและตราสารหนี้ Investment Grade มีกระแสเงินไหลเข้ามากที่สุดตั้งแต่กันยายนปี 2022 โดยมีการไหลเข้าประมาณ 7.7 พันล้านเหรียญในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ขณะที่ตราสารหนี้และตราสารทุนในตลาดเกิดใหม่ มีกระแสเงินไหลเข้าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2022 มูลค่าประมาณ 7.1 พันล้านเหรียญในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านา
หุ้นในตลาดเกิดใหม่เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน
Bank of America รายงานว่า นักลงทุนเทเงินลงทุนไปในตรสารหนี้และหุ้นต่างประเทศ และดึงเงินออกจากหุ้นเทคฯและหุ้น healthcare ของสหรัฐฯ โดยเรียกการกระทำดังกล่าวนี้ว่า “ capitulation หรือการเทขายสินทรัพย์เพื่อมาถือเงินสด ”
โดยการเทขายในช่วเดือนทีผ่านมา ถือเป็นการไหลออกที่มากที่สุดตั้งแต่มกราคมปี 2019
นอกจากนี้ ยังตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความกังวลต่อการการลงทุนในหุ้น
แบบสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนรายสัปดาห์ของ AAll ชี้ให้เห็นถึงผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 35.7% ยัง bearish ขณะที่มีเพียง 28.4% เท่านั้นที่ bullish
แบบสำรวจดังกล่าวยังแสดงถึงความต่อเนื่องของนักลงทุนที่ bearish เนื่องจากมีจำนวนผู้ตอบแบบสำรวจที่ bearish มากกว่า bullish ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 57 จาก 58 สัปดาห์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มการสำรวจปี 1987
Hartnett มองว่าว่าความเจ็บปวดในตลาดจะยังคงอยู่
และแนะนำให้นักลงทุน กลับเข้าไปลงทุนเมื่อ S&P500 ขึ้นไปแตะระดับ 4,100-4,200 จุด
“สัญญาณ hard landing ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในปี 2023 นโยบายการเงินที่เข้มงวดอาจมีให้เห็นอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลินี้เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จนอาจนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ”