พี่ลอง คุณธีรศักดิ์ ธนวรากุล รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. CGS-CIMB (ประเทศไทย) จำกัด ได้พูดถึงภาพรวมกลุ่ม Health Care กำลังเป็นขาขึ้นรอบใหญ่อาจจะเห็นการทำจุดสูงสุดใหม่ของการขึ้นรอบนี้ เพราะเมื่อย้อนไปดูวงจรของอุตสาหกรรมโรงพยาบาลที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า เมื่อใดที่กลุ่มโรงพยาบาลเข้าสู่ภาวะขาขึ้นครั้งใหญ่ ก็มีโอกาสไปต่อได้ยาว ๆ
ในส่วนของกราฟหุ้น RAM กับ THG นั้น เมื่อมาดูแล้ว สิ่งที่จะต้องระวังก็คือ ทั้งหุ้น RAM กับ THG จะมีการเล่นประเด็นที่เป็นเรื่องเฉพาะตัวสูง คือเป็นเรื่องของฝีมือการบริหารกิจการภายในโรงพยาบาลมากกว่าไม่เกี่ยวกับปัจจัยภายนอกอย่างโควิด-19 เท่าไหร่นัก สำหรับคำแนะนำในการลงทุนก็คือ ในหุ้นของ RAM นั้น จุดที่น่าสนใจก็คือ ยังเป็นหุ้นที่สามารถเข้าไปเก็งกำไรได้อยู่ ส่วนหุ้น THG ภาพรวมระยะสั้นมีการปรับตัวค่อนข้างชันและรวดเร็วมาก สำหรับจุดตัดขาดทุนนั้นจะอยู่ที่ราคา 84 บาท โดยภาพรวมขาขึ้นยังดีอยู่เว้นแต่จะหลุดในราคาที่ตั้งจุดตัดขาดทุนเอาไว้
พี่อ๋อง ธีระพล อุดมเวศย์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น RAM กับ THG ว่า ในหุ้น THG ในช่วงที่มีการเข้า IPO ใหม่ ๆ ราคาอยู่ที่ 38 บาท แล้วจากนั้นราคาหุ้นค่อย ๆ มีการปรับตัวลดลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากเวลานั้นหุ้นมีการเข้าตลาดด้วยผลกำไร 500 ล้านต่อปี พอหุ้นตัวนี้เข้าตลาด หุ้น THG เริ่มมีโครงการลงทุนหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ รวมไปถึงการเปิดโรงพยาบาลในต่างประเทศด้วย ซึ่งการเปิดโรงพยาบาลในช่วงระยะสั้นจะมีการขาดทุน แต่พอในระยะยาวแล้วถือเป็นผลดีเป็นอย่างมาก
ส่วนหุ้น RAM นั้น ค่อย ๆ ขยับขึ้นตาม ที่ผ่านมาหุ้นตัวนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ RAM ก็คือหุ้น BDMS เป็นการลงทุนแบบไม่ได้เข้าไปบริหาร ต่อมาทางกลุ่ม BDMS ได้ตัดสินใจขายหุ้น RAM ออกมา 30 % ต่อมาทำให้ RAM ได้มีการแตกพาร์ราคาหุ้น 2 รอบด้วยกัน ทำให้จากราคาหุ้นตอนแรกอยู่ที่ 2,000 ก็ลงมาอยู่ที่ราว ๆ 50-60 บาท จากนั้นทาง RAM ก็ได้มีการประกาศสร้างโรงพยาบาลขึ้นมา 5 แห่งรวด ทำให้ผลกำไรระยะยาวค่อย ๆ สะท้อนให้เห็นอย่างช้า ๆ จนทำให้ราคาหุ้น RAM มีการเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง