
*สัมภาษณ์วันที่ 30 ตุลาคม 2564
Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta
การประกาศเปลี่ยนชื่อของ Facebook เป็น Meta ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Facebook ซึ่งที่ผ่านมา Facebook เริ่มเข้าถึงคนอายุน้อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จึงเป็นการพยายามวาง Roadmap ใหม่ของ Facebook
ซึ่งจุดเปลี่ยนเกิดจาก ยอดขายของ Oculus Quest 2 หรือแว่น VR ที่ Mark Zuckerberg ขายนั้น มีสัญญาณบางอย่างที่ทำให้เห็นว่าโลกมีความพร้อมที่จะเข้าสู่โลกของ Metaverse แล้ว
จุดสำคัญที่ทำให้ Metaverse เกิดขึ้นได้จริง ๆ
หัวใจสำคัญของ Metaverse คือ ‘Experience’ หรือความสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ได้ โดย Metaverse จะเข้ามาตอบโจทย์ในขั้นที่ 3-4 หรือด้าน Social Needs ในทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow เมื่อคนได้เข้ามาใช้แล้วเห็นว่าได้ประสบการณที่ดี สุดท้ายก็จะเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจตามมา แม้บางเรื่อง Metaverse จะไม่สามารถทดแทนโลกในชีวิตจริงได้ แต่เพราะทุกวันนี้เราใช้เงินเพื่อตอบสนอง Emotion และใช้อยากให้คนอื่นยอมรับ จึงอาจเห็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างเช่นการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมในโลก Metaverse ก็เป็นได้
ผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในตอนนี้
ที่เด่นชัดสุดก็คงไม่พ้น Social Media Platform อย่าง Facebook ที่เพิ่งประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น Meta อย่างเป็นทางการไป และยังเป็นเจ้าของ Oculus หรือแว่น VR ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอย่างมาก และบริษัท Tencent ที่เป็น Social Media Platform ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งมีทั้งธุรกิจเกม และ Engine ที่เอาไว้สร้างโลกเสมือน (Unreal Engine) รวมถึง บริษัทเกมอย่าง Roblox ที่แม้จะไม่ใหญ่มากแต่ก็ก่อตั้งขึ้นมาพร้อม ๆ กับ Facebook จึงมี Learning Curve ที่ทำเรื่องนี้มายาวนาน และน่าจะเติบโตต่อไปอีกมากในอนาคต อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ข้องกับการเปลี่ยนแปลงสู่โลก Metaverse ก็คือกลุ่ม Semiconductor ที่ต้องใช้เป็นส่วนประกอบ
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่อาจโดน Disrupt จากการเปลี่ยนแปลงนี้ก็คือ Social Media Platform ต่าง ๆ ที่จะโดนแย่งเวลาหน้าจอไป หรือ Playstation ที่ต้องมีการปรับตัว รวมถึงธุรกิจที่ขายประสบการณ์เพื่อคลายเครียดต่าง ๆ เพราะคนจะหันไปใช้ประสบการณ์เพื่อคลายเครียดในโลกของ Metaverse มากยิ่งขึ้น
