เจาะเทรนด์ปี 65 ธีมเมกะเทรนด์โลกมาแรง

ดูยังไง ธีมไหนน่าลงทุน?

การจะดูว่าธีมไหนน่าลงทุนนั้นดูได้จาก Adoption Curve ซึ่งเป็นกราฟที่บอกถึง life cycle ของธุรกิจ ซึ่งเราสามารถแบ่งธีมตาม Stage ได้ดังนี้

Innovators (กลุ่มบุกเบิก) หรือ Early Adopters (กลุ่มล้ำสมัย) เป็นระยะที่มีการเติบโตธุรกิจค่อนข้างช้า-ปานกลาง มีรายได้เติบโตสูงเพราะฐานยังต่ำอยู่ และผู้ใช้ยังเป็นกลุ่มเฉพาะ ครอบคลุมผู้ใช้เพียง 16% ตัวอย่างกลุ่มธุรกิจได้แก่ EV , AI 

Early Majority (กลุ่มทันสมัย) มีการเติบโตของธุรกิจในระดับสูง รายได้เติบโตไม่สูงมากเหมือน Stage แรก ที่ประมาณ 20%-30% แต่กำไรสุทธิเติบโตมหาศาล  เพราะธุรกิจเริ่มได้รับการยอมรับในวงกว้าง ต้นทุนเริ่มถูก ธุรกิจใน Stage นี้จึงมีความคุ้มค่าที่สุดในการลงทุน ตัวอย่างกลุ่มธุรกิจได้แก่ Cloud computing, Fintech  และ Stage

Late Majority(กลุ่มตามสมัย) และ Laggards (กลุ่มปลายสมัย) การเติบโตธุรกิจใน Stage นี้จะค่อนข้างปานกลาง-ช้า  เพราะตลาดใหญ่มากจนเริ่มมีความอิ่มตัว ตัวอย่างธุรกิจใน Stage นี้ได้แก่ Social Media ที่ Daily Active Users โตน้อยลง 

4 ธีมเมกะเทรนด์ที่น่าจับตา

Fintech   

ได้ประโยชน์จาก Covid-19 และ Venture Capital ที่ทุ่มเงินเข้ามามากขึ้น ถือเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ที่กำลังมา ได้แก่ Buy Now Pay Later แอปที่จ่ายเงินซื้อของให้ก่อน แล้วผ่อนคืนทีหลัง ซึ่งจะเข้ามา Disrupt บัตรเครดิต, Lending ปล่อยสินเชื่อ, Wealth Management ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดพอร์ต, Crypto Currency Integration และ Cloud Banking   ตัวอย่างธุรกิจในธีมนี้ เช่น  Coinbase, PayPal, adyen และ Upstart

Cloud Computing 

ที่ปัจจุบันไม่ต้องดาวน์โหลดซอฟท์แวร์เพื่อใช้งานแต่สามารถทำงานผ่าน Cloud ได้เลยเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ท หลายธุรกิจที่หันมาใช้ Cloud Computing จึงมีรายได้เติบโตมากขึ้น และมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าช่วงแรกยังขาดทุนแต่กระแสเงินสดดี ปัจจุบันธุรกิจนี้มีรายได้อยู่ในอเมริกา 80% ทำให้ธุรกิจในธีมนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังมี Covid19 เป็นตัวเร่ง ตัวอย่างธุรกิจในธีมนี้ เช่น  Adobe, Microsoft และ Amazon 

Genomics 

การแพทย์แบบแม่นยำ ที่ตรวจหาโอกาสที่จะเป็นโรคและทำการรักษา/ป้องกันก่อนจะเป็นจริง ๆ ซึ่งอีก  3-5 ปีข้างหน้าจะเริ่มมีเม็ดเงินเข้ามามากขึ้น และยังเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี Cloud ที่ส่งเสริมให้ประมวลผลข้อมูลได้ดีขึ้น โดย Genomics แบ่งเป็น 4 Segments  ได้แก่ Genome Sequencing การอ่านรหัส DNA Genome Diagnostics การวินิจฉัยโรค Genetic medicine & Therapy การรักษา และ Gene Editing การตัดต่อยีน ตัวอย่างธุรกิจในธีมนี้ ได้แก่ Moderna 

Game & Esports

ธุรกิจเกมมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็น เกมมือถือ 52% รายได้ 90.7 พันล้านเหรียญ เกม PC 20% รายได้ 35.9 พันล้านเหรียญ และเครื่องเล่นวิดีโอเกม 28% รายได้ 49.2 พันล้านเหรียญ (ที่มา Newzoo Global Games Market, มิ.ย. 2564) ซึ่งธุรกิจเกมเปลี่ยนจากการรับรายได้ครั้งเดียวตอนขายเกม เป็นรับทีละเล็กน้อยแต่สม่ำเสมอ และเริ่มมีช่องทางการสร้างรายได้หลายช่องทางมากขึ้น ปัจจุบันการใช้เวลาหน้าจอบนเกมยังถือว่าน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ดังนั้นธุรกิจเกมยังมีโอกาสให้เติบโตได้อีกมาก และธุรกิจ Esports ปี 2564 มีรายได้รวม 2,084 ล้านเหรียญ เติบโต YoY +14.5%  มีผู้เล่น 474 ล้านคน (ที่มา Newzoo Global Games Market, มิ.ย. 2564) ซึ่งคาดการณ์รายได้โตประมาณ 11% ต่อปี โดยรายได้หลักมาจาก Sponsorship  ตัวอย่างธุรกิจในธีมนี้ได้แก่ SE (Sea Ltd.)

Thematic Optimized by Jitta Wealth ตอบโจทย์ยังไง? 

Thematic Optimized  มี AI ช่วยจัดธีมลงทุนให้ โดยจะเลือก 4 ธีมที่น่าลงทุนที่สุด จากการวิเคราะห์การเติบโตของบริษัท ผลตอบแทนและความผันผวน ซึ่งจะมีการปรับพอร์ตให้อัตโนมัติทุก 3 เดือน ที่ผ่านมา Thematic Optimized by Jitta Wealth มีผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 25% ต่อปี  (1 ม.ค.2561 – 31 ส.ค.2564)  การเปิดพอร์ต ใช้เงินลงทุนเริ่มต้น 100,000 บาท และสามารถเพิ่มทุนได้ครั้งละ 10,000 บาท