หุ้นจีนที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดปี 2022
2022 เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของดัชนี MSCI China Index ตั้งแต่ปี 2008
ผู้ผลิตยาและวัคซีนได้รับประโยชน์จากการผ่อนคลายนโยบาย Zero Covid ในจีน
ในปีที่ตลาดโลกคาดหวังการสิ้นสุดของโนบาย Zero Covid ในจีน
การผ่อนคลายนโยบายอย่างกระทันหันนี้ มีอิทธิพลต่อหุ้นในประเทศจีนอย่างมาก
ปี2022 นี้ดัชนี MSCI China Index ร่วงลง 23% ซึ่งนับเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 2008
ร่วงหนักกว่า Benchmark ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากภาคชิ้นส่วนยานยนต์ เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ ล้วนได้รับผลกระทบจากการ Lock Down และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอ
ท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้นในจีน ทำให้ผู้ผลิตยาที่เกี่ยวข้องกับไวรัส อย่างเช่น Yiling Pharmaceutical Co และ China Meheco Co., กลายเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด
วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อเป็นอีกประเด็นสำคัญที่ทำให้การลงทุนในตลาดจีนดูไม่ดีนัก
อย่างไรก็ตาม การเปิดเมืองและการผ่อนคลายนโยบายอาจทำให้ภาคอสังหาฯจีนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
หุ้นผู้ชนะในปี 2022
Jinko Solar Co. (+196%)
ในขณะคู่แข่งอย่าง JA Solar Technology Co. และ Tongwei Co. ถูกขายทำกำไรจากการพุ่งขึ้นปี 2021 Jinko กลายเป็นผู้ได้รับประโยน์
หุ้นผู้ผลิต solar cell นี้พุ่งขึ้นถึง 111% หลังเปิดตัวครั้งแรกในตลาดเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนมกราคม และเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องตลอดทั้งปี เนื่องจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี TOPcon ซึ่งเป็นหนึ่งในอัตราการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ที่มากที่สุดในตลาด
นักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทจะเพิ่มขีดความสามารถและขยายอัตรากำไรให้มากขึ้น หลังจากที่สามารถผ่านวิกฤตพลังงานและความวิตกกังวลเกี่ยวกับความต้องการในต่างประเทศที่ลดลง และการแข่งขันที่รุนแรงในประเทศมาได้
China Meheco Co. (+127%)
บริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่เติบโตมากกว่าเท่าตัวในปีนี้จากการเข้ามาเก็งกำไร และได้รับอนุมัติให้เป็นผู้จำหน่ายยา Paxlovid ของบริษัท Pfizer Inc. ในจีน
บริษัทกินส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็วจากการเดิมพันว่าความต้องการยารักษาโควิดจะเพิ่มขึ้นหลังจีนเริ่มผ่อนคลายนโยบาย
Cosco Shipping Energy Transportation Co. (+107%)
กลุ่มธุรกิจขนส่งน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่ในจีนพุ่งขึ้นหลังจากอัตราค่าระวางเรือพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุดเมื่อต้นปี
นักวิเคราะห์มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มนี้ไปถึงแค่ระยะกลาง เนื่องจากการขยายกำลังการขนส่งต้องมีการขะลอลงจากการคว่ำบาตรัสเซียที่ลากนาน และภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่อาจบั่นทอนอุปสงค์และการทำกำไร
TAL Education Group (+91%) และ New Oriental Education & Technology (+86%)
แม้กลุ่มบริษัทกวดวิชา จะมีผลประกอบการต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งจากความกังวลด้านการกำกับดูแลด้านกฎระเบียบของปักกิ่งที่ผ่อนคลายลง
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจากที่ Koolearn Technology Holding Ltd. ปล่อยแอปสตรีมมิงสดออกมาซึ่งน่าจะเป็นรูปแบบธุรกิจใหม่ของอุตสาหกรรม
แต่ความกังวลยังคงมีอยู่ เพราะทางการจีนได้เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลด้านการเรียนการสอนออนไลน์ทั้งในเรื่องชั่วโมงการเรียนและค่าเรียน
Shijiazhuang Yiling Pharma (+59%)
ตัวยาของ Lianhua Qingwen กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยหลังจากได้รับการแนะนำจากหน่วยงานสาธารณสุขให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไม่รุนแรง
ยาเป็นที่ต้องการมากจนหมดสต็อกในร้านขายยา และราคาเพิ่มขึ้น 4 เท่าในช่วงพีคของการแพร่ระบาด
หุ้นจะเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าจากระดับก่อนเกิดโรคระบาด
อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมนี้ลดลงอย่างรวดเร็วจากการคาดการณ์ว่าความต้องการจะลดลง ในขณะที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19
หุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่แย่ที่สุดในปี 2022
XPeng Inc. (-81%)
หุ้นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง XPeng ร่วงหนักที่สุดใน MSCI China Index จากการแข่งขันที่รุนแรงและการขาดแคลนชิปทั่วโลก
นักวิเคราะห์ลดราคาเป้าหมายหุ้นลงกว่า 80% ในปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงและแนวโน้มการขาย NEVs ที่น่าจะล่าช้าลงในปี 2023
CIFI Holdings Group (-77%)
CIFI ร่วงลงอย่างหนักท่ามกลางการต่อสู้กับวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์จากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจากโนบาย Zero-Covid
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เลวร้ายน่าจะใกล้สิ้นสุดลงจากหลังผู้กำหนดนโยบายให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนมากขึ้น และรัฐบาลจีนก็ได้ผ่อนคลายนโยบาย Zero-Covid แล้ว
ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมของ CIFI ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาเพื่อแสดงถึงการสนับสนุนหลังจากที่บริษัทกำหนดทิศทางออกมา
Nio Inc. (-69%)
หุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่เคยพุ่งขึ้นถึง 1,112% ในปี 2020 เจอปัญหาเช่นเดียวกับ Xpeng ทั้งในด้าน Supply ต้นทุน และการแข่งขัน
ผู้ก่อตั้งมองว่า บริษัทจะมีความท้าทายมากยิ่งขึ้นในปี 2023 จากการสนับสนุนของรัฐบาลที่ลดลงและการชะลอตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์รถไฟฟ้าของจีนคาดว่าจะทำสถิติใหม่ที่ 6.5 ล้านคันในปีนี้ จากผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง BYD Co., Tesla Inc. และ Guangzhou Automobile Group
GoerTek Inc. (-68%)
การขาดแคลนอย่างหนักสำหรับอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์จีน ผู้ผลิตชิ้นส่วนของ The Apple Inc. คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 473 ล้านเหรียญหลังจากลูกค้ารายใหญ่ในต่างประเทศระงับคำสั่งซื้อ
นักลงทุนมองว่า GoerTek มีความเสี่ยงที่จะหลุดออกจากห่วงโซ่อุปทานบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีรายงานว่า Apple พยายามที่จะย้ายฐานการผลิตไปยังอินเดีย เพิ่มมุมมองที่น่ากังวลที่มากยิ่งขึ้นสำหรับประเทศจีน
Smoore International Holdings Ltd. (-67%)
ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าประสบปัญหาหลังจากกฎระเบียบใหม่ที่ห้ามผลิตบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสชาติสร้างสรรค์และห้ามขายให้กับผู้เยาว์
บริษัทจึงได้รับผลกระทบทั้งจากแรงกดดันด้านราคาในตลาดประเทศ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างกำไรก็มีความล่าช้า
นักวิเคราะห์คาดว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศนี้ อาจทำให้บริษัทแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดได้มากขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตามระยะสั้นมองว่าการเติบโตในแง่ของการทำกำไรยังดูไม่ชัดเจนมากนัก