หลังรายงานประชุมเฟด เศรษฐกิจโลก-ไทย จะรอดหรือไม่ปี 2022?

“Party is Over” FED ตัดสินใจลด QE ทันทีหลังมีการลดดอกเบี้ย

หน้าที่หลักของ FED คือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอเมริกาโดยดูแลให้ระดับราคา การจ้างงาน และอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสม  ซึ่งหนึ่งในอาวุธที่สำคัญของ FED คือ “การส่งสัญญาณ” เพราะทุกคำพูดของ FED มีนัยทั้งหมด  

ขณะนี้ FED มองว่าตนเองกำลังส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยที่ล่าช้าเกินไป (Behind the Curve) เพราะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ชั่วคราว และตอนนี้เงินเฟ้อกำลังขึ้นไปสูงกว่าที่คาดไว้ ถ้าชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปอีก 2 ปี จะมีความสุ่มเสี่ยงทำให้เงินเฟ้อไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาวุธที่ FED ใช้จัดการคือเริ่มจากประกาศว่าเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นไม่ชั่วคราวอีกต่อไป และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยจะมีการทำลดวงเงิน QE (QE Tapering) เป็น 2 เท่าตัว และสุดท้ายคือการปรับลดขนาดงบดุล  

ธนาคารกลางมีความตรงไปตรงมา

นายธนาคารกลางที่ดี คือต้องทำตัวให้ง่ายที่สุดและไม่สร้างความผันผวนให้ตลาดต้องคาดเดาว่าตนเองจะทำอะไร เพราะสิ่งที่ธนาคารกลางหวงแหนที่สุด คือความเชื่อมั่นในธนาคารกลาง  ดังนั้น ธนาคารกลางจะบอกชัดเจนเลยว่าตอนนี้เป็นช่วงขึ้นดอกเบี้ย ช่วงคงดอกเบี้ย หรือช่วงลดดอกเบี้ย

ผลกระทบหลังรายงานประชุม FED

FED บอกว่าตนเองเป็นนายธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่นายธนาคารกลางของโลก ดังนั้น ประเทศอื่นมีหน้าที่ปรับตัวตาม เพราะการที่ FED จัดการให้สหรัฐอเมริกามีเสถียรภาพได้ แล้วมีคนล้มหายตายจาก ย่อมเป็นผลดีกับโลกยิ่งกว่าการที่ FED จัดการไม่ได้แล้วคนไม่ล้มหายตายจาก FED จะกลับมาใส่ใจผลกระทบที่ตามมาก็ต่อเมื่อผลกระทบนั้นย้อนกลับมาที่สหรัฐอเมริกาเอง 

กนง. ไทยกำลัง Behind the Curve?

มองว่าตอนนี้ไทยยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องขึ้นดอกเบี้ยพร้อมสหรัฐ เพราะแต่ละประเทศก็มีวงจรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง อย่างตอนนี้ไทยเองก็ต้องดูว่าเศรษฐกิจเราอยู่จุดไหนแล้ว ซึ่งตอนนี้เรายังอยู่ในจุดที่ไม่ฟื้นตัวมากนักเพราะ GDP ของไทยมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งสำคัญในตอนนี้คือเราต้องเอานักท่องเที่ยวกลับมาให้ได้ก่อน