คุณชัชวนันท์ สันธิเดช นักลงทุนหุ้นคุณค่าแห่ง Club VI ได้พูดถึงชาร์ลี มังเกอร์ มือขวาของปู่บัฟเฟตต์ว่า เขาเปรียบเสมือนขั้วตรงข้ามของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่เติมเต็มบัฟเฟตต์เป็นอย่างดี แม้เป็นคนที่พูดอะไรตรงไปตรงมา แต่สำหรับในสายตาของบัฟเฟตต์นั้น ชาร์ลี มังเกอร์เป็นคนที่มีคุณธรรมและสามารถเติมเต็มความคิดของเขาในส่วนที่ขาดหายไปได้
พูดได้เลยว่า ปู่บัฟเฟตต์มาถึงตรงจุดนี้ได้ส่วนหนึ่งก็เพราะชาร์ลี มังเกอร์ จุดเริ่มต้นที่ทั้งสองคนนี้รู้จักกันนั้น บัฟเฟตต์รู้จักกับมังเกอร์ผ่านทางคุณปู่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์อีกทีมาตั้งแต่สมัยเด็ก สมัยเด็กทั้งสองคนยังไม่ได้มีแนวคิดเรื่องหลักปรัชญาหรือหลักการทำธุรกิจมากนัก เมื่อทั้งสองคนต่างคนต่างเติบโตมากขึ้น ความคิดของพวกเขาก็เปลี่ยนไป โดยรวมแล้วชาร์ลี มังเกอร์ถือเป็นบุคคลที่ฉลาด มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และสิ่งหนึ่งที่ชาร์ลี มังเกอร์เหมือนกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ก็คือมีความสมถะเป็นอย่างมาก
สิ่งที่ชาร์ลี มังเกอร์มีความแตกต่างไปจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ก็คือ การเป็นคนโผงผาง พูดจาไม่เกรงใจใคร ชาร์ลี มังเกอร์เรียนจบกฎหมายหลังจากที่จบสงครามเวียดนาม แล้วสามารถตั้งบริษัททางด้านกฎหมายเป็นของตัวเองขึ้นมาได้ การกลับมาเจอกันระหว่างวอร์เรน บัฟเฟตต์กับชาร์ลี มังเกอร์ได้มีการเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 1959 หลังจากจบสงคราม 10 กว่าปี ตอนนั้นทั้งสองกินข้าวเย็นด้วยกัน มีการแนะนำจากเพื่อนอีกที คุยไปคุยมาก็ถูกคอกัน จนสุดท้ายวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้ชักชวนชาร์ลี มังเกอร์ให้มาทำธุรกิจด้วยกัน หลังจากเข้ามาแล้วก็มีจุดเปลี่ยนที่ ชาร์ลี มังเกอร์ สร้างให้กับ Berkshire ไม่ว่าจะเป็นการทำให้บัฟเฟตต์เปลี่ยนจากการลงทุนที่เน้นซื้อหุ้นราคาถูกเพียงอย่างเดียวและคุณภาพเป็นเรื่องรอง แต่เพราะมังเกอร์ ทำให้บัฟเฟตต์หันมาเน้นลงทุนในกิจการที่มีคุณภาพ มีโอกาสเติบโต มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้บัฟเฟตต์กล้าออกไปลงทุนนอกอเมริกามากขึ้นด้วย