คุณสุวรรณี สุวรรณแสงโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ตาชำนิ ได้พูดถึงโมเดลทางธุรกิจของบริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) หรือ CEYE เอาไว้ว่า เป็นบริษัทที่ให้บริการผลิตเนื้อหาทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสตูดิโอให้เช่า, ออนไลน์มีเดีย ทั้งหมดนี้เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา โดยทางด้าน Production ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวเรียกได้ว่าเกือบครบวงจรแล้ว
ตอนที่ได้เริ่มก่อตั้งธุรกิจมานั้น เริ่มตั้งแต่สมัยยังเรียนในมหาวิทยาลัย หลังจากที่ทำมาเรื่อย ๆ แล้ว ลูกค้าเริ่มเข้ามาใช้บริการซ้ำ ๆ เริ่มมีการบอกต่อ ก็เริ่มเห็นแล้วโอกาสเข้ามา พอเราเริ่มมีพนักงานที่ทำมาด้วยกันแล้วก็คิดต่อว่าจะทำยังไงให้บริษัทเติบโตขึ้น ตอนแรกคิดอย่างเดียวว่า ทำอย่างไรให้บริษัทและพนักงานมีความก้าวหน้ามากขึ้นและจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ จนถึงตอนนี้บริษัทก็สามารถรับผลิตทำโฆษณากับบริษัทชื่อดังจำนวนมาก
คุณเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บจก. แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ได้พูดถึงผลประกอบการและฐานะทางการเงินในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้วที่บริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างหนัก อย่างเช่นในเรื่องของการออกกองถ่ายที่จำกัดการรวมตัว ทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ อาจทำได้ในส่วนอื่นแทนเช่น Post-Production จนมาถึงช่วงไตรมาส 4 รัฐบาลได้มีการผ่อนปรนมาตรการมากขึ้น การออกกองก็ทำได้ตามปกติ ทำให้บริษัทสามารถฟื้นตัวได้เทียบเท่ากับช่วงก่อนโควิด
สำหรับปัจจัยที่ทำให้อุตสาหกรรมทางด้านการตลาดและโฆษณาเติบโตขึ้น มองว่าอุตสาหกรรมจะสามารถกลับมาได้เหมือนในในช่วงที่ก่อนที่เกิดโควิดอย่างแน่นอน และจะมีอัตราการเติบโตในส่วนของการทำภาพการเคลื่อนไหวและออนไลน์มีเดียอีกมาก เพราะผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้งบประมาณในการโฆษณาในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นป้ายโฆษณาหรือทางออนไลน์ อีกส่วนหนึ่งเห็นได้ว่าตอนนี้อุตสาหกรรมดังกล่าวเริ่มเจาะเข้ากลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อการบันเทิง ซึ่งถือเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมมีเม็ดเงินเข้ามาและเติบโตขึ้นต่อไปได้