เมื่อมีการรวมกิจการกัน ก็จะมีต้นทุนที่เรียกว่า Cost of Efficiency หรือ ต้นทุนที่เกิดจากการรวมกิจการที่มีสินค้าลักษณะคล้าย ๆ กัน ทำให้ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้ามาหา BAY เพราะธุรกิจมีความซ้ำซ้อนกัยแต่ก็จะเกิดการประหยัดต่อขนาดด้วย และ Loan Yield ก็น่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 50-60 bp. ทำให้ส่วนต่างรายได้สุทธิ (NIM) ของ BAY ดีขึ้น ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของ BAY ที่น่าจะดีขึ้นในปีหน้า เพราะยอดสินเชื่อดีขึ้น Margin ดีขึ้น กำไรดีขึ้น และ ROE ดีขึ้น
มุมมองการลงทุน
BAY เป็นหุ้นกลุ่มธนาคารที่มีการจ่ายปันผลต่ำ จึงไม่เน้นการลงทุนเพื่อเงินปันผล อีกทั้งหุ้น BAY เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ แม้ว่าจะมีผลการดำเนินงานดีและราคาหุ้นไม่แพง แต่ก็ไปสุดทางยากเพราะนักลงทุนต่างชาติและสถาบันไม่ได้เข้ามาลงทุนจึงเป็นการซื้อขายกันระหว่างนักลงทุนรายย่อยในประเทศมากกว่า พอหุ้นมีสภาพคล่องไม่มาก ทำให้ราคาหุ้นมีความผันผวน ดังนั้นมองว่า หุ้น BAY เหมาะกับการซื้อมาขายไปมากกว่า
#ถามทันที | BAY ได้อะไร หลังชนะประมูลพอร์ตบัตรเครดิต Citibank 60,000 ล้านบาท