ปัญหาใหญ่อาจจะกำลังตามมาแบบคาดไม่ถึง   #ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก   ==========   1. “ภาพชินตา”   ตอนนี้เป็นภาพคุ้นชินแล้วครับกับการที่คนทั้งโลกพยายามดิ้นรนมองหา วิธี work from home แบบไม่ทันตั้งตัว   กลายเป็นว่าความพยายามที่จะ transform เปลี่ยนให้บริษัทมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำจนแล้วจนรอดกลับยังไม่สำเร็จ   แต่เจ้าไวรัสตัวเดียวกลับทำให้ทั้งโลกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีภายในพริบตาครับ   แม้ว่าทั้งโลกจะตื่นตัวแค่ไหน

  1. งานเข้า! ราคาหุ้น Luckin Coffee ร่วงหนัก 75% หลังกำลังถูกตรวจสอบว่ามีการโกงบันทึกรายได้ที่สูงเกินจริง   #ถันอี้ #谈亿 #ถามอีกกับอิกเรื่องลงทุนจีน   Luckin Coffee เคยเป็นเชนร้านกาแฟที่โตโหดมาก ๆ ในจีนครับ ทั้ง ๆ ที่เพิ่งก่อตั้ง ในปี 2017 นี้เองครับ   ปัจจุบันมีสาขามากกว่า

1. ผู้ผลิต Shale สหรัฐยื่นขอล้มละลายรายแรก หลังเจอมรสุมราคาน้ำมันร่วงหนักจากสงครามน้ำมัน   บริษัทนี้มีชื่อว่า Whiting Petroleum ทำให้กลายเป็นผู้ผลิต shale oil รายแรกที่ประกาศล้มละลายไปครับ และแน่นอนครับว่าการที่ราคาน้ำมันร่วงหนักรวดเดียวต่ำที่สุดในรอบ 18 ปี ก็ย่อมทำให้บริษัทหลายรายที่มีต้นทุนสูงก็คงจะไม่รอดครับ และในท้ายที่สุดก็คงจะต้องยื่นล้มละลาย หรือเกิดการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ในวงการน้ำมันของสหรัฐครับ “เจอมรสุมหลายเด้งครับ ทั้งปัญหา demand ความต้องการน้ำมันที่หายไปจากโควิด 19 และปัญหา

  1. จีนเริ่มฟื้น! เริ่มหันกลับมาซื้อของออนไลน์อีกครั้ง   เป็นความหวังเหมือนกันครับว่าเศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นบ้างแล้ว และเริ่มมีการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญว่ามีโอกาสฟื้นตัวแบบ V-shape กลับมาอย่างรวดเร็วเลยครับ   ตัวอย่างสินค้าที่ขายดีมาก เช่น อาหาร Lunch box, เสื่อโยคะ, ฮูลาฮูป, รวมถึงการบริการประเภท delievery, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม   เหตุผลน่าจะเป็นเพราะว่าผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการออกไปข้างนอก และยังไม่กลับมาทำงานแบบเต็มที่ครับ   ในขณะที่รายงานจาก JD.com บอกว่า

  1. ธนาคารกลางสหรัฐ ฟันธงพนักงานมีโอกาสตกงาน 47 ล้านคน อัตราการว่างงานอาจจะพุ่งสูง 32.1%   “ตัวเลขคนที่ตกงานจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แต่หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ไวรัสไปแล้ว และหากเรามีการเตรียมตัวมาอย่างดี ทุกคนก็จะกลับไปทำงาน พอถึงตอนนั้นทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี” ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์บอกครับ   ถ้าจำนวนผู้ตกงาน 47 ล้านคนนั่นหมายความว่า อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 32.1%   “เป็นเหตุการณ์ช็อคที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เศรษฐกิจสหรัฐเคยเจอมาในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา”   แต่จุดที่ต้องระวังคือ ตัวเลขนี้ไม่ได้รวมการออกจากตลาดแรงงานของ คนอีกจำนวนมาก (คนที่ไม่ได้หางาน จะไม่ถูกนับมารวมในตัวเลขนี้ นั่นแปลว่า ตัวเลขจริงของคนที่ไม่มีงานทำอาจจะมากกว่านี้อีกครับ)    ในขณะที่ตัวเลขคนที่ขอรับสวัสดิการ การว่างงานสัปดาห์ที่แล้ว 3.3 ล้านคน ส่วนนักเศรษฐศาสตร์ก็มองว่าสัปดาห์นี้มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นอีก 2.65 ล้านคน   หลัก ๆ แล้วธุรกิจที่มีความเสี่ยง คือ ช่างตัดผม, พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน   ย้ำว่านี่เป็นตัวเลขของอเมริกาครับ แต่วิกฤตรอบนี้เกิดขึ้นทั้งโลก เอาใจช่วยทุกคนนะครับ   ========   2. หุ้น Microsoft ดีดแรง หลังจากที่ธุรกิจ cloud เติบโตดี ในช่วงเกิดวิกฤตโควิด 19  

  1. จีนประกาศห้ามไม่ให้ต่างชาติเข้าประเทศ เริ่มวันเสาร์นี้ หลังมีผู้ติดเชื้อจากต่างชาติเข้าจีนจำนวนมาก   #ถันอี้ #谈亿 #ถามอีกกับอิกเรื่องลงทุนจีน   จีนประกาศว่าวันเสาร์นี้จะเริ่มปิดกั้น ไม่ให้ต่างชาติเกือบจะทุกประเทศเข้าประเทศจีน หลังจากที่จีนคุมอัตราการติดเชื้อประเทศได้อยู่หมัดแล้ว แต่กลับมีต่างชาติแห่เข้าไปจีนแล้วติดเชื้อจำนวนมากครับ   ทั้งนี้คนต่างชาติติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจีนอย่างก้าวกระโดดครับ ล่าสุด 67 รายภายในวันเดียว และยังมี 58 รายที่มีแนวโน้มติดเชื้อเพิ่มเติมที่กำลังรอผลการตรวจอยู่ครับ นั่นเลยเป็นที่มาของการประกาศมาตรการนี้ออกมา   “ต่างชาติจะไม่สามารถเข้าประเทศได้

  จัดหนักจัดเต็มจริง ๆ เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะเป็นมาตรการช่วยเหลือประชาชนให้อยู่รอด, รวมถึงภาคเอกชน SMEs ที่เจอแรงกระแทกจากโควิด และจัดเต็มเรื่องสาธารณสุข   และไม่แน่ครับว่า เราอาจจะพอมองเห็นมาตรการที่สามารถเอามาใช้ในบ้านเราได้ครับ   หลายมาตรการเด็ดขาดมาก   =============   1. ส่วนแรกจะจ่ายตรงให้กับคนอเมริกันสูงสุด 1,200 เหรียญหรือ 3.6 หมื่นบาท   แต่ถ้าแต่งงานแล้วก็จะได้ 2,400

  #ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก   ========   คาดการณ์ตัวเลขโอกาสคนตกงาน   1. “25 ล้านคน” คือตัวเลขประมาณการณ์เบื้องต้นของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ที่มองว่าคนทั้งโลกกำลังจะตกงานครั้งใหญ่ จากโควิด 19   2.เป็นตัวเลขคนตกงานที่สูงกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งล่าสุดในปี 2008 ครับที่ตอนนั้นมีรายงานว่ามีคนตกงาน 22 ล้านคน

  1.เศรษฐกิจสิงค์โปร์หดตัว 2.2% ในไตรมาสแรกหลังเจอปัญหาโควิด 19   สิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆที่ประกาศตัวเลข GDP ออกมาในรอบนี้เลยครับ ปรากฏว่าลดลง 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ร่วงมากถึง 10.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า   แต่พอไปดูไส้ในจะเห็นว่าจริงๆแล้วเป็นการคาดการณ์จากตัวเลขเดือน มกราคม และกุมภาพันธ์ เพราะยังไม่ถึงสิ้นเดือนมีนาคมครับ แต่ก็พอจะเห็นภาพว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะเป็นอย่างไร   ทำให้ตอนนี้รัฐมนตรีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมปรับตัวเลขประมาณการณ์เศรษฐกิจเป็นติดลบตั้งแต่ ลบ 1%

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก   สด ๆ ร้อน ๆ เลยครับ อ่านแล้วจะเริ่มเข้าใจมาตรการของเฟดมากขึ้นครับ   =============   1. “เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยอย่างรุนแรง” อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประเมินว่าไตรมาสหน้าอาจจะเห็นเศรษฐกิจถดถอยเลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างถูกปิดตัวลง   “แต่หลังจากนั้นก็จะเริ่มฟื้นกลับมาได้ในเวลาไม่นาน” แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ทำลายตลาดแรงงาน และไม่ทำลายธุรกิจ (ธุรกิจยังไม่ล้มหายตายจากไป)   ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็จะมีโอกาสได้เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้เร็วประมาณนึง