ดร.อรรถวิท เตชะวิบูลย์วงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ได้พูดถึงทิศทางแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือ EV เอาไว้ว่า ส่วนตัวแล้วเทรนของโลกในเวลานี้ เริ่มให้ความสำคัญกับการลดใช้รถยนต์สันดาปภายในอนาคต ทำให้ค่ายรถยนต์เริ่มเกาะกระแสตามประเทศชั้นนำ โดยมีการประกาศว่า จะเริ่มมีการลดการจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นสันดาปภายใน แล้วหันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแทน ส่วนประเทศที่กำลังพัฒนานั้น เชื่อว่าค่ายรถยนต์ไม่ได้มองข้าม เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่
สำหรับปัญหาในเรื่องของการยกเลิกการใช้รถยนต์สันดาปภายในก็คือ เรื่องของอุปสงค์และอุปทานของการใช้รถยนต์นั้น อาจมีความต้องการที่จะใช้รถยนต์แบบเดิมอยู่ ตัวอย่างเช่นประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศที่ปูทางเรื่อง EV มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ในเวลานี้ประเทศนอร์เวย์ได้มีการปูทางการใช้ EV เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น พฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
การที่ประเทศไทยจะเป็น Hub ทางด้านการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้านั้น เวลานี้ตลาดรถยนต์โดยรวมกำลังมีการชะลอตัว จะต้องดูว่า บริษัทนั้นใช้ฐานประเทศไทยในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าให้กับประเทศไหนบ้าง เวลานี้ตลาดอาเซียนยังคงเป็นตลาดหลักอยู่ แต่ปัญหาก็คือ ตลาดอาเซียนส่วนใหญ่ยังคงใช้รถยนต์สันดาปภายในอยู่ ในการส่งรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องทำได้ลำบากเพราะเวลานี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปภายใน ในการวางนโยบายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้านั้น จะต้องสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ ไม่เพียงแค่นโยบายการลงทุนเท่านั้น แต่ต้องเน้นนโยบายทางด้านการผลิตรถยนต์ให้มากขึ้น
คุณหมู คุณสุวัฒน์ สินสาฎก CFA, FRM, ERP กรรมการผู้จัดการ บล.ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟ เอส เอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้มองโอกาสที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นกระแสว่า อุปสรรคการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเวลานี้ก็คือ เรื่องของราคาเริ่มต้น, โครงสร้างพื้นฐานในประเทศ โดยเฉพาะการขับรถยนต์ไฟฟ้าไปต่างจังหวัดนั้น เอื้ออำนวยหรือไม่, ตัวชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่อาจมีความแตกต่างกัน ตรงส่วนนี้เป็นเรื่องยากที่จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้าหันมานิยมใช้งานกันมากขึ้น
อัตราการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ปี 2020-2021 มีการเติบโตที่รวดเร็ว ด้วยเหตุผล 2 ประการด้วยกันก็คือ 1.รถยนต์ไฟฟ้ามีความเกี่ยวข้องกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2.การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในอดีตเป็นเรื่องยากที่ประเทศจีนจะทำการแข่งขันผลิตรถยนต์แข่งกับค่ายรถยนต์ทั้งในญี่ปุ่นและยุโรปได้ ซึ่งทรัพย์สินที่สำคัญในเวลานั้นก็คือ ทรัพย์สินทางปัญญาของรถยนต์ ทำให้คนที่คิดจะแข่งขันไปไม่ถึงพวกเขาได้ ต่อมาจีนได้เปลี่ยนกลยุทธ์ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นตัวนำหน้า คาดว่าจีนจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในรถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่าปัจจุบันฐานการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่ได้สูงมาก แต่มันมีปัจจัยอื่นที่ขับเคลื่อนด้วยนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนตัวเชื่อว่า เทรนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปีนี้มาแน่ เพียงแต่ว่าแพคเกจที่ทางรัฐบาลได้ออกมานั้น มีผลมากน้อยแค่ไหน