ปัญหาใหญ่อาจจะกำลังตามมาแบบคาดไม่ถึง
#ลงทุนนอกโลก โดย #ถามอีกกับอิก
==========
1. “ภาพชินตา”
ตอนนี้เป็นภาพคุ้นชินแล้วครับกับการที่คนทั้งโลกพยายามดิ้นรนมองหา วิธี work from home แบบไม่ทันตั้งตัว
กลายเป็นว่าความพยายามที่จะ transform เปลี่ยนให้บริษัทมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำจนแล้วจนรอดกลับยังไม่สำเร็จ
แต่เจ้าไวรัสตัวเดียวกลับทำให้ทั้งโลกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีภายในพริบตาครับ
แม้ว่าทั้งโลกจะตื่นตัวแค่ไหน
แต่ในประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าเทคโนโลยี กลับยังไปทำงานที่ออฟฟิศ ไม่ยอมทำงานที่บ้านครับ
==========
2. “ขาดความพร้อม”
มีข้อมูล 3 ชุดที่ผมเองก็คาดไม่ถึงตอนที่ได้เห็นครับ
ชุดแรกคือ ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นที่สำรวจในปีที่แล้ว พบว่าสัดส่วนเอกชนกว่า 80% ไม่มีความพร้อมในการให้พนักงานทำงานที่บ้านครับ เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก
ถัดมาเป็นข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจญี่ปุ่นบอกว่า พนักงานจำนวนมากไม่มีแลปทอปที่บ้าน และบริษัทเองก็ไม่มีระบบในการเชื่อมต่อการทำงานที่บ้านได้
ส่วนข้อมูลอีกชุดหนึ่งคือ ข้อมูลในปี 2018 พบว่าผู้บริหารระดับสูงมากถึง 1 ใน 4 ของบริษัททั้งประเทศญี่ปุ่น อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจจะไม่ถนัดกับเทคโนโลยีใหม่
เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดจริงๆครับ แต่ถ้าไปคุยกับคนญี่ปุ่นก็จะเริ่มเข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
==========
3. ”วัฒนธรรมการทำงาน”
“ถ้าผมไม่ได้ไปทำงานที่ออฟฟิศ ผมจะรู้สึกผิดมาก และจะไม่มีทางทำงานเสร็จเลยครับ” เป็นคำพูดของเพื่อนญี่ปุ่นของผมเองครับ
ผมก็ถามไปว่า ไม่กลัวติดโควิดเหรอ เค้าก็บอกว่าเริ่มกลัวบ้างนะ แต่การทำงานต้องมาก่อนเรื่องอื่น โอวว….
เชื่อไหมครับว่า ตั้งแต่มีการระบาดโควิด คนญี่ปุ่นยังไปทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เหมือนเดิมครับ เพื่อนผมคนนี้ทำงานบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่ไปทำงานตั้งแต่ 6 โมง กว่าจะกลับบ้านก็นู้น 4-5 ทุ่มครับ
“ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ กลัวเจ้านายจะกลับมาหลังเสร็จชั่วโมงการทำงาน แล้วจะคิดว่าเราไม่ทุ่มเทการทำงาน” เพื่อนผมพยายามลองนึกดูเหตุผลให้ผมครับ
เพราะส่วนนึงคือ โบนัส หรือการเลื่อนตำแหน่งก็ขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานของแต่ละคนด้วยครับ
“และถ้าสมมติว่าไม่ไปทำงาน หรือกลับบ้านเร็ว“ “เราจะรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมทีมมาก ๆ”
นี่แหละครับผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่สำคัญที่ยังทำให้คนญี่ปุ่นยังคงทุ่มเทกับการทำงานมาก ๆ
==========
4. “กลัวเศรษฐกิจพัง?”
จนถึงตอนนี้เท่าที่เชคดูจะเห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน และยังไม่ lockdown ปิดประเทศเพื่อป้องกันโควิดครับ เพียงแต่ขอความร่วมมือ ให้ประชาชนอย่าไปรวมกลุ่มกันเพราะจะมีความเสี่ยง
(แต่ล่าสุดก็เริ่มเพิ่มมาตรการห้าม ไม่ให้คนที่เดินทางจาก 72 ประเทศเข้าญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงไทย)
เหตุผลส่วนหนึ่งที่รัฐบาลญี่ปุ่น เป็นประเทศพัฒนาแล้วเพียงไม่กี่ประเทศที่ยังไม่เข้มงวดเด็ดขาด เป็นเพราะกลัวว่าเศรษฐกิจจะพัง
ข้อมูลล่าสุดญี่ปุ่น มีผู้ติดเชื้อเพียง 2,617 ราย เสียชีวิต 63 ราย (นับจนถึงวันที่ 3 เม.ย. 2563 เวลา 18.00 น.) ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสหรัฐที่มีผู้ติดเชื้อมากถึง 245,380 ราย
แต่รายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นบอกว่า จริงๆแล้วเพิ่งจะตรวจโควิดไปไม่ถึง 4 หมื่นคน นั่นหมายความว่า ถ้าญี่ปุ่นยังไม่ปรับวิธีการทำงาน โอกาสที่ตอนนี้คนญี่ปุ่นจะเจอการแพร่ระบาดในอนาคตย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน
==========
5. “เหตุผลเดียว”
“เหตุผลเดียวที่เราจะหยุดทำงานที่บ้าน คือรัฐบาลต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเท่านั้น” เพื่อนผมบอกทิ้งท้ายครับ
และเมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินแก้ และเศรษฐกิจก็อาจจะพังไปมากกว่าเดิม เพราะอย่าลืมนะครับว่าโรคนี้ส่วนใหญ่จะมีความเสี่ยงต่อผู้สูงอายุ
และญี่ปุ่นเองก็เป็นสังคมผู้สูงอายุ ทำให้ยิ่งมีความเสี่ยงมาก
ผมนึกถึงโพลล์ ที่คุณมาซาโยชิ ซัง อภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของญี่ปุ่นผู้ก่อตั้ง softbank โยนหินถามทางทางออนไลน์ว่า “ถ้าการตัดสินใจของรัฐบาลใช้เวลานานมาก”
“คุณคิดว่า คุณควรประกาศภาวะฉุกเฉินด้วยตัวเราเองในโตเกียว แม้ว่าจะไม่มีกฏหมายมาบังคับหรือไม่?”
ท่านผู้อ่านคิดว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่ตอบโพลล์ของ คุณมาซาโยชิ ซัง ว่าอะไรครับ?
==========
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
คลิกเลย