#ถันอี้ #谈亿 #ถามอีกกับอิกเรื่องลงทุนจีน
ยังคงต้องเอาใจช่วนสถานการณ์โรคระบาด ในจีนโรคปอดอักเสบครับ ล่าสุดรัฐบาลจีนสั่งให้ตัวแทนการท่องเที่ยวหยุดขายแพคเกจการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
คำถามคือ ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อประเทศไหนเจ็บหนักสุด?
=======
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวจีน ช่วยให้การท่องเที่ยวทั้งโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องครับ
ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2000 ตอนนั้นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศมีประมาณ 10.5 ล้านคน (อ้างอิงตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน)
ก่อนที่จะเพิ่มขึ้น 5 เท่าเป็น 47.7 ล้านคน และเพิ่มขึ้นอีกเป็น 149.7 ล้านคนในปีล่าสุด
เท่ากับว่า นักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปหาประสบการณ์ชีวิตในต่างประเทศเติบโตมากถึง 15 เท่าในช่วง 20 ปีล่าสุดครับ
เหตุผลก็น่าจะเป็นเพราะคนจีนมีกำลังซื้อสูงขึ้น มีเงินในกระเป๋ามากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจีนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
=======
แนวโน้มเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่เราเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนอยู่ในทุกที่ ไปไหนก็เจอ อาจจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ช่วงแรกเท่านั้นครับ
“เพราะปัจจุบันคนจีน มีพาสพอร์ตเพียงแค่ 9% ของคนจีนทั้งประเทศ” แต่ 9% นี่ก็เท่ากับ 120 ล้านคนเลยนะครับ
เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วมีพาสพอร์ต ประมาณ 40-60% ของประชากรทั้งหมด
ทำให้สำนักงานการท่องเที่ยวของจีนคาดว่า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสพุ่งขึ้นสูงถึง 400 ล้านคนภายในปี 2030
(เป็นตัวเลขคาดการณ์ ก่อนเกิดโรคระบาด)
=======
ไม่ใช่แค่จำนวนที่ว๊าวครับ
แต่ตัวเลขจาก United Nations World Tourism Organization บอกว่านักท่องเที่ยวจีน เป็นชาติที่ใช้จ่ายในต่างประเทศมากที่สุดในโลก
“คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.77 แสนล้านเหรียญ” ทิ้งห่างอันดับสองอย่างชาวอเมริกัน 1.44 แสนล้านเหรียญ
ทิ้งห่างอันดับ 3 อย่างเยอรมนี 3 เท่าตัว
ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าอาหาร ค่าที่พัก และของฝาก ครับ
นี่เลยเป็นเหตุผลให้หลายประเทศ เช่นเมียนมา อังกฤษ ญี่ปุ่น ฯลฯ ทยอยผ่อนปรนเรื่องวีซ่า ลด แลก แจกแถมอย่างเต็มที่ ให้ชาวจีน เพื่อกระตุ้นให้มาท่องเที่ยวที่ประเทศของตัวเองครับ
=======
นักท่องเที่ยวจีนหาย…. ประเทศไหนเจ็บหนักสุด?
#ถันอี้ #谈亿 #ถามอีกกับอิกเรื่องลงทุนจีน
หลายประเทศเริ่มมีสัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงจนมีนัยยสำคัญ (เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด) ในช่วงที่ผ่านมา
จากกราฟฟิคจะเห็นว่า เขตปกครองพิเศษฮ่องกง, มาเก๊า ฝากความหวังไว้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนมากถึง 70-78% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด
ในขณะที่เกาหลีใต้, เวียดนาม, ไทย, เขตปกครองพิเศษไต้หวัน พึ่งพานักท่องเที่ยวจีน มากถึง 1 ใน 3
ทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีน มีผลต่อรายได้และความคึกคัก ของการท่องเที่ยวในประเทศเหล่านั้นครับ ในช่วงที่ผ่านมา
=======
ส่วนไทยเองก็น่าเป็นห่วงอยู่บ้างครับ เพราะก่อนหน้านี้เศรษฐกิจไทยเติบโตน้อยลง แต่ก็ไม่ถึงกับติดลบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีตัวเลขการท่องเที่ยวคอยค้ำไว้อยู่ (1 ใน 3 เป็นรักท่องเที่ยวจีน)
และรายได้จากการท่องเที่ยว คิดเป็นสัดส่วน 9% ของ GDP
นั่นหมายความว่า การที่นักท่องเที่ยวจีน เจอปัญหาโรคระบาดในช่วงนี้ แล้วเดินทางไม่ได้เป็นเวลานาน ๆ
ก็อาจจะทำให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ รวมถึงไทยก็คงจะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (อาจจะกระทบเป็นลูกโซ่ ทั้ง ธุรกิจสายการบิน, ทัวร์ท่องเที่ยว, โรงแรม, ค้าปลีก, ร้านสะดวกซื้อ)
ไม่ใช่ผลกระทบทางเศรษฐกิจเท่านั้นครับ แต่อาจจะกระทบกับความเชื่อมั่นถึงแนวทางการบริหารจัดการของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ
(เห็นภาพหรือคลิปในหวู่ฮั่นแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง อย่างกับในหนังเลยนะครับ)
“ไม่มีใครรู้ว่าจีนจะใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะควบคุมสถานการณ์ได้” ก็ได้แต่หวังว่า จีนจะควบคุมให้ได้โดยเร็วที่สุด สู้ ๆ นะครับ
=======
เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE