มาแล้วครับ การรวบรวม 20 ความเสี่ยง จากนักวิเคราะห์จากค่าย Deutsche Bank ที่อาจจะเขย่าทั้งพอร์ตการลงทุน ทั้งเศรษฐกิจโลกในปีหน้า
มาลุยกันครับว่าคุณเห็นด้วยในข้อไหนบ้าง
1. ความเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียมกัน จะเพิ่มขึ้น ทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งเรื่องความรวย, รายได้ และระบบดูแลสุขภาพ
2. การเซ็นสัญญาการค้าสหรัฐ-จีน ในเฟสที่ 1 ยังไม่จรดปากกาเซ็น และจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่า สถานการณ์หลังจากเฟสที่ 1 จะมีอะไรเกิดขึ้น ตามมาหรือไม่
3. ความไม่แน่นอนที่เกิดจากสงครามการค้าจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของภาคเอกชน
4. การชะลอตัวเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น จีน ยุโรป ญี่ปุ่น จะมีผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าอย่างมีนัยยสำคัญ
5. ความไม่แน่นอนจากการถอดถอนประธานาธิบดี และ ความเป็นไปได้ที่หน่วยงานภาครัฐจะถูกปิด หยุดการทำงานไป (ภาระหนี้สินสูง และอาจจะไม่สามารถขยายวงเงินงบประมาณได้)
6. ความไม่แน่นอนที่เกิดจากการเลือกตั้งสหรัฐ เช่น นโยบายด้านภาษี กฏระเบียบ และการใช้จ่ายลงทุนของรัฐบาล
7. กฏหมายป้องกันการผูกขาดทางธุรกิจ, ปกป้องสิทธิส่วนบุคคลและกฏหมายที่จะควบคุมบริษัทเทคโนโลยี
8. นักลงทุนต่างชาติจะเริ่มเสียศรัทธา และเริ่มไม่เชื่อมั่นในเครดิต สหรัฐ และพันธบัตรสหรัฐ เนื่องมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี
9. ทฤษฏีการเงินสมัยใหม่ MMT-style (เช่น ธนาคารกลางพิมพ์เงิน, ทำนโยบายขาดดุล) จะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐยุโรปเติบโตได้
10. ระดับหนี้ของรัฐบาลสหรัฐจะเริ่มมีนัยยสำคัญ
11. การที่ไม่สอดคล้องการระหว่างความต้องการและ ปริมาณ supply ของพันธบัตรรัฐบาลอาจจะทำให้ อัตราดอกเบี้ยสำหรับธุรกรรมกู้ยืมระยะสั้นระหว่างสถาบันการเงิน พุ่งสูงขึ้น
12. ธนาคารกลางสหรัฐจะเริ่มลังเลที่จะลดดอกเบี้ยในปีที่มีการเลือกตั้ง
13. สถานการณ์ตราสารหนี้จะตึงตัวมากขึ้นโดยความแตกต่างระหว่าง ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับ CCC และ BBB จะห่างกันมากขึ้นในตราสารหนี้ของเอกชน
14. สถานการณ์ตราสารหนี้จะตึงตัวมากขึ้นโดยความแตกต่างระหว่าง ตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับ CCC และ BBB จะห่างกันมากขึ้นในตราสารหนี้ของผู้บริโภค
15. จะเริ่มเห็นภาวะนางฟ้า ตกสวรรค์มากขึ้น: เอกชนจำนวนมากขึ้นจะได้รับการจัดอันดับเป็น BBB และ หลายบริษัทจะถูกลดอันดับจาก BBB เป็น high yield หรือ พันธบัตรที่มีความเสี่ยงสูง
16. ตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนติดลบที่มีจำนวนมากขึ้น จะทำให้นักลงทุนทั่วโลกมองหาโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ในสหรัฐมากขึ้น
17. กำไรของบริษัทจดทะเบียนลดลง นั่นหมายความว่าจะมีเงินในกระเป๋าสำหรับการซื้อหุ้นคืนลดลงเช่นกัน
18. ตลาดรถยนต์ในระดับโลกชะลอลง จะเป็นความเสี่ยงต่อทั้งเศรษฐกิจและตลาดการลงทุนโลก
19. ตลาดอสังหาในออสเตรเลีย แคนาดา และสวีเดน ฟองสบู่แตก
20. ปัญหาความไม่แน่นอนจาก Brexit จะยังเป็นความเสี่ยงต่อไปในปี 2020