ปู่บัฟเฟตต์พยากรณ์ ก่อนวิกฤตหุ้นธนาคาร

ปู่บัฟเฟตต์เคยวิเคราะห์หุ้นธนาคารก่อนเจอวิกฤตคนแห่ถอนเงิน

และนี่คือคำพูด 9 ข้อ ที่อธิบายเกี่ยวกับวิกฤตการธนาคารที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

Silicon Valley Bank, Signature Bank, and Silvergate ได้ปิดตัวลงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เกิดความกังวลว่าอุตสาหกรรมธนาคารจะล่มสลายและเกิดวิกฤตการเงินในท้ายที่สุดหรือไม่

Warren Buffett นักลงทุนระดับโลก ผู้บริหาร Berkshire Hathaway ได้ศึกษาและได้ลงทุนในหุ้นธนาคารมากกว่า 5 ทศวรรษ

ข้อสังเกตในอดีตบางส่วนของเขาเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับกระแสความเดือดดาลเกี่ยวกับการดำเนินการของธนาคาร การให้ความช่วยเหลือของรัฐบาล การประกันเงินฝาก ไปจนถึงการจัดการความเสี่ยงที่ย่ำแย่

นี่คือสิ่งที่ Buffett เคยวิเคราะห์ไว้เกี่ยวกับหุ้นธนาคาร

1. “ธุรกิจธนาคาร เป็นธุรกิจที่สามารถเป็นธุรกิจที่ดีมากได้ หากมีการดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่มีเวทมนตร์ใด ๆ เพียงต้องอยู่ให้ห่างจากสิ่งที่โง่เขลา ซึ่งคล้าย ๆ กับการลงทุน ไม่ต้องทำอะไรฉลาด ๆ มากมาย เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่โง่เขลา” (กล่าวปี 1996)

2. “ธุรกิจธนาคาร ไม่เป็นที่โปรดปรานของเรา เมื่อสินทรัพย์เป็น 20 เท่าของทุน ซึ่งเป็นอัตราส่วนโดยทั่วไปของหุ้นในอุตสาหกรรมนี้

ความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์เพียงเล็กน้อยสามารถทำลายส่วนใหญ่ของผู้ถือหุ้นได้ หลายธนาคารมีการปล่อยกู้ตามผู้นำด้วยความกระตือรืนร้น และตอนนี้ธนาคารเหล่านั้นก็กำลังประสบชะตากรรม” (กล่าวปี 1990)

3. “เมื่อคุณมีอาการตื่นตระหนก คุณต้องมีใครสักคน ที่ไหนสักแห่ง ที่สามารถพูดและเชื่อถือได้ และตั้งมั่นใจว่าเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือคุณ” (กล่าวปี 2015)

4. “ในสมัยก่อน วิธีเดียวที่จะทำให้ธนาคารไม่ล้ม คือให้ใครสักคนเอาทองมาเทตรงหน้า คนจะวิ่งไปธนาคารที่กำลังมีปัญหา และหาก CEO ธนาคารออกมาพูดว่า ‘อัตราส่วน Basel II คือเราคือ 11.4%’ แถวก็จะยิ่งยาว  (กล่าวปี 2015)

5. “โดยปกติแล้ว ธนาคารมีความเสี่ยงที่จะปล่อยกู้ระยะยาวในอัตราดอกเบี้ยคงที่และกู้ยืมระยะสั้น 

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา สถาบันการเงินที่สำคัญบางแห่งเลิกทำแบบนั้นไปแล้ว อย่างไรก็ตามที่ Berkshire มีการnatural offset จากการรักษา cash-equivalentsไว้อย่างน้อย 2 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งจะได้รับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 

เพราะ Berkshire มีความอ่อนไหวต่อสินทรัพย์อย่างมาก ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น” (SVB ประสบปัญหาเนื่องจากได้ลงทุนเงินฝากซึ่งสามารถถอนได้ทันทีในพันธบัตรอายุยา โดยไม่มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยอย่างเพียงพอ) (กล่าวปี 2015)

6. “การเป็นผู้อ่อนแอทางการเงินที่มีรัฐบาลคุ้มครอง ดีกว่าการเป็นฮีโร่ที่ไม่มีใคร” 

(Buffett ชี้ว่าธนาคารที่มีการประกันเงินฝากกับ FDIC หรือผู้ให้กู้อื่น ๆ ที่มีรัฐบาลค้ำประกัน จะสามารถกู้ยืมได้ง่ายและยังมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ ขณะที่บริษัทอย่าง Berkshire ที่มีอันดับเครดิต AAA และมีงบดุลที่มั่นคง กลับกู้ยืมยากและมีต้นทุนการกู้ยืมที่สูงกว่า) (กล่าวปี 2008)

7. “เมื่อเผชิญกับการขาดแคลนรายได้จำนวนมาก ธนาคารที่มีพันธบัตรค้ำประกันมีแนวโน้มที่จะหา ‘แนวทางแก้ไข’ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อผู้ถือหุ้น มากกว่าธนาคารท้องถิ่นขนาดเล็ก” 

(เขาพูดถึงความเสี่ยงด้าน “moral hazard” ในเงินฝากของธนาคารที่รัฐบาลค้ำประกัน) (กล่าวปี 2008)

8. “ก่อนที่จะมี FED เกิดขึ้น การล้มของธนาคารที่อ่อนแอ ทำให้ธนาคารที่แข็งแกร่งต้องการสภาพคล่องอย่างกระทันหัน จนทำให้ธนาคารที่แข็งแกร่งล้มตามมาในที่สุด ขณะนี้ FED ได้ปกป้องผู้ที่แข็งแกร่งจากปัญหาของผู้ที่อ่อนแอ”

9.“อย่างน้อยที่สุด ควรยกระดับพนักงานธนาคารให้เป็นเหมือน ‘บาร์เทนเดอร์ที่มีความรับผิดชอบ’ (ถ้าจำเป็น) โดยการปฏิเสธการได้กำไรจากการขายเครื่องดื่มบ้างเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งคนเมาออกไปขับรถบนท้องถนน (highway)

โชคร้าย ที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทการลงทุนชั้นนำหลายแห่งทิ้งศีลธรรมเหล่านี้ไป ทำให้ผู้ที่ยังรักษาความรับผิดชอบนั้นไว้ เดินทางได้โดยไม่ต้องเจอกับถนนที่รถติด