
#Punphol101 สรุปบทเรียนปี 2022 สู่ไอเดียลงทุนปี 2023 โดย KRUNGSRI EXCLUSIVE

5 บทเรียนลงทุนจากปี 2022
Lesson 1: ขึ้นยิ่งสูง ยิ่งลงต่ำ
กองทุนที่มีผลการดำเนินงานดีมาก ๆ อย่างเช่น ARK หรือหุ้นจีนในปีที่แล้ว เมื่อถึงเวลาปรับตัวลง ก็ลงมากเหมือนกัน
Lesson 2: เสี่ยงได้ แต่ต้องจำกัดเงินลงทุน
เพราะเมื่อพอร์ต -50% เราต้องทำผลตอบแทนเป็น 100% เพียงเพื่อกลับมา “เท่าเดิม”

5 บทเรียนลงทุนจากปี 2022
Lesson 3: จัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยง ช่วยลดความผันผวนผลตอบแทนได้
Lesson 4: เมื่อตลาดเต็มไปด้วยความกลัว คือโอกาสลงทุนที่ดีที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่พร้อมใจกันเทขายหุ้น

5 บทเรียนลงทุนจากปี 2022
Lesson 5: สินทรัพย์ทางเลือกกลุ่ม Assets อีกทางเลือกในภาวะตลาดหุ้นผันผวน เพราะ “ตลาดหุ้นสะท้อนจิตใจคนมากกว่าเศรษฐกิจ”

ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2023
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยแรงขับเคลื่อนมาจากภาคบริการ
การส่งออกไทย: ยังถูกกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในทิศทางชะลอตัว
ภาคการท่องเที่ยว: นักท่องเที่ยวจีนกลับมาให้เศรษฐกิจภาคบริการฟื้นตัว
การบริโภคภาคเอกชน: ขยายตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของรายได้ในกลุ่มลูกจ้าง
นโยบายแก้ไข:
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้เข้าสู่ระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
แนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ผลของการเปิดประเทศ และมาตราการสนับสนุนเศรษฐกิจของจีน
การส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจเพิ่มชึ้น เพราะผู้ประกอบการเผชิญแรงกดดันด้านต้นทุนต่อเนื่อง และอาจมีแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ ที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
ที่มา: ดร. ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย งานสัมมนา Investment Outlook 2023 โดย KRUNGSRI EXCLUSIVE

5 แนวโน้มของเทคโนโลยีที่จะมีต่อการลงทุน
1. ประสบการณ์ที่ดีขึ้น (Digital first)
เทคโนโลยีจะมาช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ผู้ใช้งาน
2. การชำระเงินแบบไร้รอยต่อ (Digital payment)
ผ่านรูปแบบหรืออุปกรณ์การชำระเงินแบบใหม่ เช่น นาฬิกา
3. สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital asset)
การลงทุนทางเลือกในสินทรัพย์ดิจิทัล
4. เตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีที่กำลังจะมา (Pioneer in future technologies) เช่น Metaverse, Web 3.0
5. การป้องกันภัยต่าง ๆ ที่จะมาทางไซเบอร์ (Cyber security)
ที่มา: ดร. พิมพ์นารา หิรัญกสิ ผู้บริหารฝ่ายวิจัยธุรกิจและอุตสาหกรรมและรักษาการผู้บริหารฝ่ายวิเคราะห์และพัฒนางานวิจัย สายงานวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) งานสัมมนา Investment Outlook 2023 โดย KRUNGSRI EXCLUSIVE

3 ปัจจัยที่สำคัญต่อการลงทุนในปี 2023 โดย BlackRock
1. Pricing the damage:
BlackRock มองว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัว ราคายังมีโอกาสปรับตัวลงอีก โดยกลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือหุ้นวัฎจักร กลุ่มพลังงานและธนาคาร
2. Rethinking bonds: การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมีความน่าสนใจในช่วงที่เป็นดอกเบี้ยขาขึ้น
3. Living with inflation: พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation Linked Bond) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในช่วงนี้ที่เงินเฟ้ออยู่ในช่วงขาขึ้น
ที่มา: Mr. Thomas Taw Head of Investment Strategy and Product Consulting for the APAC ETF business, BlackRock งานสัมมนา Investment Outlook 2023 โดย KRUNGSRI EXCLUSIVE

8 เรื่องการลงทุน ที่น่าจับตา
1. เงินเฟ้อ:
ความเสี่ยงเกี่ยวกับ “เงินเฟ้อ” น่าจะคลี่คลาย
2. Recession:
ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอย เพิ่มสูงขึ้น
3. Global Fixed Income:
แนะนำเพิ่มน้ำหนัก เพราะ 1. ได้ซื้อพันธบัตรราคาถูก (Yield สูง) 2. ถ้าเกิด Recession จะทำให้ Yield ปรับลดลง มีโอกาสได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากราคาพันธบัตรที่สูงขึ้น
4. ตลาดหุ้นโลก:
คาดว่าตลาดหุ้นโลกจะผันผวนในช่วงครึ่งปีแรก จากความกังวลเรื่อง Recession และมีโอกาสกลับทิศเป็นขาขึ้นในช่วงครั้งปีหลัง ถ้าเศรษฐกิจเป็น Soft landing

8 เรื่องการลงทุน ที่น่าจับตา
5. ตลาดหุ้นไทย:
Krungsri Securities มองเป้า SET Index 1800 จุดสิ้นปี 2023 และแนะนำเพิ่มน้ำหนักที่ดัชนี 1580-1640
6. REITs:
นอกจากให้ Yield ที่ค่อนข้างสูงแล้ว ยังมีโอกาสได้ประโยชน์จากค่าเช่าที่ปรับเพิ้มขึ้นตามเงินเฟ้อ แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักเมื่อตลาดย่อตัว
7. ทองคำ:
ถ้าเศรษฐกิจเข้าสู่ Recession การลงทุนในทองคำมักให้ผลตอบแทนที่ดี แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักที่ราคา $1,730-1,800
8. ค่าเงิน:
Krungsri Global Markets คาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นและผันผวนมาก แนะนำเลือกกองทุนที่ทำ FX Hedging

5 ทางเลือกลงทุน Krungsri Recommended
1. ใครที่มองหาเงินฝากดอกเบี้ยสูง
เงินฝากประจำ Step-up 20 เดือน และกองทุนส่วนบุคคลตราสารเงินฝาก Hattha Bank 12 เดือน
2. ใครที่มองหากองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น เน้นลงทุนในพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูง
KFSMART (แนะนำลงทุน 6-12 เดือนขึ้นไป)
3. ใครที่มองหากองทุนตราสารหนี้คุณภาพดี บริหารแบบ Active
KF-SINCOME หรือ KF-CSINCOM (แนะนำลงทุน 3-5 ปีขึ้นไป)
4. ใครที่มองหากองทุนผสม ที่มีทีมงานมืออาชีพช่วยปรับสัดส่วนการลงทุน
KFCORE (แนะนำลงทุน 3-5 ปีขึ้นไป)
5. ใครที่มองหากองทุนหุ้น Defensive ที่ได้รับผลกระทบน้อยหากเกิด Recession
KFGBRAND (แนะนำลงทุน 3-5 ปีขึ้นไป)

กลยุทธ์การลงทุนสำหรับครึ่งปีแรกปี 2023 โดย ONE Krungsri Investment
สำหรับการลงทุน 6-12 เดือน
– Money Market: กองทุนตราสารตลาดเงินให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ลดความผันผวน
– Local Fixed Income: ตราสารหนี้ไทยอัตราผลตอบแทนตั้งต้นสูง แต่ยังน้อยกว่าตราสารหนี้ต่างประเทศ
– Global Fixed Income: ที่น่าสนใจลงทุนคือพันธบัตรสหรัฐฯ yield ที่ 3.5-4.0%
– Local Equity: แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักที่ 1580-1640 จุด
– Global Equity: แนะนำ Buy on Dip และทำ Short-Term Trading จุดที่น่าสนใจลงทุน S&P500 ที่ 3,600-3,700 จุด
– Alternatives: REITS แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักเมื่อตลาดย่อตัว Gold แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักที่ราคา $1,730-1,800

ไอเดียการจัดพอร์ตปี 2023 โดย Krungsri
แนะนำให้แบ่งเงินลงทุนเป็น Core Portfolio vs. Satellite Portfolio
Core Portfolio สัดส่วนมากกว่า 80%
Satellite Portfolio สัดส่วนน้อยกว่า 20% (แต่ละกอง <5%)

ไอเดียการจัดพอร์ตปี 2023 โดย Krungsri

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับ หนังสือชี้ชวนกองทุนได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
