คุณดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย Head of Equities – Thailand บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) ได้พูดถึงภาพรวมเศรษฐกิจโลกเอาไว้ว่าถือเป็นเรื่องน่ากังวล เห็นได้จากที่มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลก หลัก ๆ มาจากประเทศพัฒนาแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ จะออกมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 2.5 % สำหรับ GDP สหรัฐฯปีหน้ามองว่าจะมีการเติบโตเพียงแค่ 1.7 %เท่านั้น และในปี 2024 เศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยถึง 40 %
สำหรับประเทศไทยแล้ว ทางเรามองว่าตลาดหุ้นบ้านเรายังคงเป็นหลุมหลบภัยในวิกฤตเศรษฐกิจโลกอยู่ มีปัจจัยอยู่ 3 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรก ไทยเป็นไม่กี่ประเทศที่มีการคาดการณ์ว่า GDP ปีหน้าจะสูงกว่าปีนี้ โดยคาดการณ์การเติบโตปีนี้ 3% ปีหน้า 4% ประเด็นที่สอง เงินเฟ้อกระทบทั่วโลก แต่ไทยมีการปรับเพดานหนี้สาธารณะขึ้น ทำให้มีกระสุนที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ และลดค่าใช้จ่ายประชาชน และประเด็นที่สามที่แบงก์ชาติไทยมีการเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อ ดังนั้น ไทยจะเป็นประเทศท้าย ๆ ที่จะเห็นการขึ้นของดอกเบี้ย
คุณดวงธิดา แซ่แต้, CFA ผู้จัดการกองทุน บลจ. อเบอร์ดีน (ประเทศไทย) ก็ได้พูดถึงตลาดหุ้นไทยที่ยัง Underperform เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทำให้เศรษฐกิจบ้านเรายังคงมีแนวโน้มเติบโต คาดว่าจะมีการเติบโต 5 % และปีหน้าจะมีการเติบโตถึง 21 % ด้วยกัน ส่วนการประมาณการของค่า EPS ในประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะขาขึ้น อานิสงส์จากการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งที่กำลังมีการฟื้นตัวอยู่ในเวลานี้
ทั้งสองท่าน ยังได้ให้มุมมองธีมการลงทุนไทยในปี 2022 สำหรับหุ้น Big Cap ได้แก่ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดประเทศ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบที่จำกัดจากเงินเฟ้อที่สูง กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่วนหุ้น Small Cap ได้แก่ กลุ่ม Digital Transformation กลุ่ม Aging Societyและ กลุ่ม Logistics