คุณกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ได้พูดถึงผลการประชุมของ FED ที่อาจเปลี่ยนจุดค่าเงินบาทเอาไว้ว่า ตอนนี้ผลกระทบจากการดำเนินนโยบายการเงินที่สวนทางกันถือเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง หากถามว่าจะมีจุดเปลี่ยนไหม มีความเป็นไปได้หากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือ FED มีสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เพิ่มขึ้นมากนัก อาจมีความเป็นไปได้ว่าค่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้
โดยภาพรวม หากไปดูการประชุมการขึ้นดอกเบี้ย มีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.50% จำนวน 3 ครั้งติด และคิดว่าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในครั้งนี้จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% คาดว่าในการประชุมรอบเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% สาเหตุตรงนี้จะต้องมาดูภาพรวมทางเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนถึงสัญญาณโดยรวมที่เห็นว่าทั้งอุปสงค์กับอุปทานของสหรัฐฯ ยังคงเป็นไปได้ด้วยดีอยู่
พี่หมอวิน นพ.รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา นักลงทุนเซียนเทคนิค ได้วิเคราะห์ค่าเงินบาทไทยจาก J.P. Morgan ว่าประเทศไทยได้มีการถูกลดเกรดลงมา โดยตลาดหุ้นไทยดูไม่สดใสมากนักจากแรงกดดันด้านการท่องเที่ยว บวกกับเวลานี้จีนได้ดำเนินนโยบาย Zero-COVID ในช่วงปีก่อนที่จะเกิดโควิด-19 ระบาด จีนมีการใช้เงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยและนักท่องเที่ยวจีนก็เข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ ภูมิภาคอาเซียนจะเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แม้การท่องเที่ยวยังกลับมาไม่เท่าเดิม แต่มองว่าอุตสาหกรรมนี้ยังคงมีโอกาสเติบโตขึ้นต่อไปได้
สำหรับภาพรวมแนวทางการลงทุนในปีนี้ มองว่าเป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายสำหรับนักลงทุน ตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ได้สะท้อนกลุ่มหุ้นใหญ่ทั้งหมด ซึ่งแนวโน้มหุ้นขนาดใหญ่ที่ยังอ่อนแอจากเงินบาทอ่อนค่าและการฟื้นตัวของรายได้ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ SET Index ไม่ได้โดดเด่นมากนัก นักลงทุนต้องมองหาโอกาสดี ๆ และยังต้องระมัดระวังในการลงทุน เพราะตลาดมาเป็นกลุ่ม ๆ และหากหุ้นไหนไม่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีเข้ามารองรับ ให้ระวังการปรับตัวลงแรง ๆ