คุณปณต จิตต์การุญ Mudley Group ได้พูดถึงสถานการณ์ตลาดหุ้นที่เริ่มมีท่าทีกังวลกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าเป็นความกังวลที่สมเหตุสมผล เพราะสิ่งที่เห็นคือต้นทุนทุกอย่างมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นดังนั้นหากสถานการณ์มีความยืดเยื้อก็ถือเป็นเรื่องน่ากังวลไม่น้อย สำหรับประเด็นหลัก ๆ ที่นักลงทุนควรมองคือต้องมาดูก่อนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเราจริง ๆ คืออะไร อย่างเช่น รัสเซียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหากราคาน้ำมันเป็นแบบนี้นานก็เป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนยูเครนเป็นประเทศที่ส่งออกธัญพืช อาหารสัตว์ ดังนั้นถ้าอาหารสัตว์ขาดแคลน มีราคาสูง ก็กระทบมาถึงเนื้อสัตว์ที่เราบริโภค แปลว่าสงครามที่เกิดขึ้นครั้งนี้ กระทบทั้ง Supply ของโลก เรื่องสงครามมันเป็นเกมของคนข้างบน สิ่งที่เราต้องสนใจจริง ๆ คือ ดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเราอย่างไร แล้วราจะหาทางอยู่ให้รอดได้อย่างไร
เวลานี้ สถานการณ์โลกค่อนข้างเอาแน่เอานอนไม่ได้เพราะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนถ่ายระบบ ความขัดแย้งต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตามมาได้ง่าย ๆ เป็นไปอย่างที่ Ray Dalio ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือ The Changing World Order สำหรับคำแนะนำการลงทุน ให้หาว่าใครเป็นฝ่ายได้ประโยชน์และใครเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ เพราะจุดอ่อนของนักลงทุนส่วนใหญ่ คือการมองเพียงแค่ขึ้นกับลง ขึ้นคือดี ลงคือแย่ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เสมอไป
สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังเป็นสัญญาณของเศรษฐกิจถดถอย (Recession) หรือไม่ ก็ต้องมาดูที่ผลิตภาพ(Productivity)ของประชาชนในประเทศนั้น ๆ เพราะจะส่งผลต่อการเติบโตของประเทศ อย่างที่ผ่านมา ประเทศไทยเจอกับผลิตภาพด้านการท่องเที่ยวหดหาย ซึ่งไทยเป็นประเทศที่มีรายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวหายไปก็กระทบในหลาย ๆ ด้าน และหากประชาชนมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ทำให้ประชากรไม่มีเงินทุนส่วนเกินที่จะนำมาลงทุนเพื่อสร้างผลิตภาพเพิ่มเติมได้ การเติบโตของประเทศก็ลดน้อยลงนำไปสู่การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession หรือ Stagflation) ได้