เกิดอะไรขึ้นกับ Evergrande อสังหาฯยักษ์ใหญ่ของจีน?
Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน หลังมีข่าวราคาหุ้นตกลงจาก 30 HKD เหลือไม่ถึง 3 HKD แม้ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่จะมียอดขาย 2 ล้านล้านบาท แต่กลับมีหนี้สูงเกือบ 10 ล้านล้านบาท และยังมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้จำนวน 9 ล้านล้านบาท
ในแง่อัตราส่วนทางการเงิน แม้ว่าหุ้นของบริษัท Evergrande จะมี P/E 1.89 เท่าและ Dividend Yield 7% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดูดี แต่กลับมีหนี้ในสัดส่วนที่สูงมาก ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสัญญาณอันตรายที่ควรจับตามอง โดยดร.นิเวศน์ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของบริษัท Evergrande นี้ จะไม่ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของจีนมากนัก
จะตามรอยต้มยำกุ้งหรือไม่?
ในหลายวิกฤตการเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือ “สภาพคล่อง” ตอนเหตุการณ์ต้มยำกุ้งนั้น สภาพคล่องหายไปหมด ทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่กู้มาจากต่างประเทศเพราะค่าเงินลอยตัว แต่วิกฤติอสังหาฯจีนในครั้งนี้ คนรวยยังมีเงินเมื่อราคาอสังหาฯลดลงจึงสามารถซื้อเก็บไว้ ทำให้บริษัทอสังหาฯยังพอมีรายได้เข้ามา
ดร.นิเวศน์มองว่าปัญหาในครั้งนี้ รัฐบาลจีนอาจเข้ามาช่วยในทางอ้อมโดยการเข้าไปคุยกับสถาบันการเงินให้ช่วยค้ำบริษัทอื่นที่ยังพอไปได้ แต่สำหรับบริษัท Evergrande อาจต้องปล่อยให้ล้ม เพราะรับภาระหนี้ที่สูงมากนี้ไม่ไหว อีกทั้งสถาบันการเงินของจีนเองก็มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีและสภาพคล่องเยอะ สถาบันการเงินอาจอยู่ในช่วงเหนื่อยสักพักแต่จะไม่ถึงกับล้ม
ลงทุนได้หรือไม่ มีวิธีดูยังไง?
สำหรับนักลงทุนรายย่อย มีสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนการตัดสินใจลงทุน ได้แก่ ‘หนี้สิน’ แม้ว่าหุ้นนั้นจะมี P/E ถูก ให้ปันผลดี แต่หนี้ก็ไม่ควรสูงมากเกินไป และ ‘ความผันผวนของอุตสาหกรรม’ หากบริษัทนั้นอยู่ในอุตสาหกรรมที่ความผันผวนอาจจะไปกระทบกับ Cash Flow ของบริษัทได้ต้องระมัดระวัง