*สัมภาษณ์วันที่ 14 สิงหาคม 2564
ลาออกจากงานประจำมาลงทุน Full-Time เตรียมเงินอย่างไร?
พี่จิมมี่เริ่มลงทุนตั้งแต่ทำงานประจำ โดยทำงานด้านกลยุทธ์และการตลาดมาประมาณ 16-17 ปี พี่จิมมี่วางแผนเก็บเงินให้ครบ 3 ส่วน ก่อนจะลาออกมาลงทุนเต็มตัว เผื่อกรณีการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาด และเพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ต้องขายหุ้นเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย
1. ส่วนแรกคือ เงินค่าเทอมลูก โดยคำนวณว่าค่าการศึกษาจนลูกเรียนจบเป็นเท่าไหร่ เพราะถ้าเกิดผิดพลาดอะไร ลูกยังมีเงินเรียนหนังสือ
2. ส่วนที่สองคือ เงินสำรองฉุกเฉิน โดยคำนวณเงินที่ต้องใช้ในแต่ละเดือนและเก็บให้พอใช้ 6 เดือน – 2 ปี เพื่อให้ยังสามารถใช้จ่ายได้ตามปกติในวันที่พอร์ตพัง
3. ส่วนที่สามคือ เผื่อไว้ท่องเที่ยว
เทคนิคร่อนตะแกรงเลือกหุ้น
1. ตั้งเป้าภาพใหญ่ว่าต้องการอะไร
ถ้าเปรียบเสมือนว่าเราเป็นโค้ชทีมฟุตบอล เราต้องตั้งเป้าว่าเราต้องการอะไรจากการแข่งขัน อยากคว้าแชมป์ อยากเป็น 1 ใน 4 ทีมแรก หรือแค่เล่นแล้วไม่ตกรอบ เมื่อรู้ว่าเราต้องการอะไรแล้ว จากนั้นค่อยเลือกหุ้นที่จะลงทุน
2. หา “หุ้นแถว 2”
หาหุ้นที่เกี่ยวข้องใน Supply Chain ของหุ้นที่ขึ้นแรง ๆ เพราะถ้าไปซื้อหุ้นแถวแรกหุ้นอาจราคาแพงไปแล้ว ถ้าราคาแพงไปแล้วไม่เหมาะก็มองย้อนกลับไปอีกแถว ไปเรื่อย ๆ จนถึงต้นน้ำ จนกว่าจะเจอหุ้นที่ราคาเหมาะสม โดยต้องมองให้กว้างว่าทั้ง Supply Chain มีหุ้นไหนที่เกี่ยวข้องบ้าง
3. เลือกลักษณะผู้บริหารที่เหมาะกับเป้าหมายเรา
ถ้าอยากให้หุ้นโตแบบก้าวกระโดด ผู้บริหารต้องกล้าลุยและมีความคิดอยากทำอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา แต่ถ้าอยากให้หุ้นเติบโตไปเรื่อย ๆ ได้รับปันผลไปเรื่อย ๆ ผู้บริหารต้องไม่ทำอะไรที่เสี่ยงมาก ดังนั้นวิธีการทำงานของผู้บริหารก็สำคัญเพราะจะส่งผลต่อผลกำไรและราคาหุ้นในอนาคต
4. หาไอเดียแล้วต่อยอด
เช่น การฟัง Opportunity Day หรืออ่านข่าว เพื่อจะได้ไอเดียจากบริษัทโดยตรงว่ามีโอกาสจะเติบโตต่อไปในอนาคตอย่างไร
ถัวหุ้นอย่างไร ให้ไม่ขาดใจ
พี่จิมมี่เตือนว่าระวังการถัวหุ้นขาลงเพราะจะทำให้ยิ่งขาดทุนหนัก แนะนำให้ถัวหุ้นขาขึ้น เพราะหุ้นที่ดีคือหุ้นที่กำลังขึ้น เพียงแต่การถัวต้องเป็นการถัวแบบมีหลักการ โดยแบ่งการลงทุนเป็น 3 ไม้ ดังนี้
ไม้ที่ 1: ซื้อ 50% หากเห็นว่าหุ้นตัวนี้ดีจริง มีโอกาสเติบโตได้ และราคาหุ้นไม่สูงเกินไป
ไม้ที่ 2: ซื้อ 30% เมื่อเห็นว่าราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้น อาจหมายความว่าผลประกอบการน่าจะดี หรือมีหลายคนในตลาดมองเห็นเหมือนเรา
ไม้ที่ 3: ซื้อ 20% เมื่อประกาศผลประกอบการ หรือมีข่าวดีออกมาแล้ว