ถ้าไทยใช้อู่ฮั่นโมเดลจริง จะกระทบเศรษฐกิจแค่ไหน?

ถ้าไทยใช้อู่ฮั่นโมเดลจริง จะกระทบเศรษฐกิจแค่ไหน?

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มรุนแรงในประเทศไทย อู่ฮั่นและกวางโจวโมเดลถึงเป็นสิ่งที่คุณไทยควรเรียนรู้ เพื่อนำมาปรับใช้ในการรับมือกับโควิด-19 โดยอาจารย์ ปิติ ได้วิเคราะห์สิ่งที่จีนทำในการรับมือวิกฤตได้ดังนี้ 7 สิ่งที่ทำให้อู่ฮั่นและกวางโจวพ้นวิกฤตโควิด – 19 

1. ภาวะผู้นำของจีน ที่กล้าตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่รอบด้าน รอบคอบ และที่สำคัญต้องมีแผนรองรับที่ดี

2. การเร่งตรวจเชื้อเชิงรุก โดยระดมบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ไปเคาะตามบ้านเพื่อตรวจเชื้อทุกวัน ตลอด 24 ชม. ทำให้สามารถตรวจได้เป็นหลักล้านคนภายในเวลาไม่กี่วัน 

3. บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และไม่มีการเลือกปฏิบัติ

4. การจัดหาอาหารและสิ่งของจำเป็น เพื่อให้ประชาชนไม่ขาดแคลนในช่วง Lockdown 

5. เร่งฉีดวัคซีนให้มากที่สุดควบคู่ไปกับการเว้นระยะห่างทางสังคม  (Social Distancing) เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาด จนมั่นใจว่าปลอดโรคแล้วจริง ๆ  ถึงจะเริ่มคลายล็อคได้ 

6. ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น ใช้ AI เพื่อค้นหาว่าพื้นที่ไหนเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยง  โดยบอกถึงระดับเลขที่บ้าน หรือการพัฒนา Mini Application (Application ที่ติดกับ Application เดิมที่มีอยู่แล้ว) เพื่อให้สามารถสั่งสิ่งของที่จำเป็นและรัฐบาลท้องถิ่นก็จะนำสิ่งของไปให้ที่บ้าน 

7. ทำให้ประชาชนเชื่อใจในตัวผู้นำ โดยผู้นำต้องบอกแผนการและวิธีการรับมือโดยละเอียด  และต้องทำตามแผนที่วางไว้

อะไรที่ประเทศจีนทำแล้วสามารถนำมาปรับใช้ในประเทศไทยได้บ้าง

ระดับ Micro  : คือการทำอย่างไรให้เมื่อ Lockdown แล้ว คนไม่อดอยากและไม่เดือดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม 

ระดับ Macro : ดูจากประสบการณ์จากประเทศที่ทำสำเร็จ ได้แก่ 

1. Macro-Economic Policy โดยมีอุปสงค์เป็นตัวนำ และตอบสนองความต้องการของประชาชนให้ได้ เพื่อรักษาแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ

2. Economic Stimulus Package คือการเน้นประกันการจ้างงานเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน โดยการให้เงินช่วยเหลือธุรกิจเพื่อนำเงินไปจ้างคนงาน เพราะเมื่อประชาชนมีความมั่นใจก็จะกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

3. ขจัดอุปสรรคการดำเนินเศรษฐกิจ โดยการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงกฎต่าง ๆ ที่เป็นคอขวดในการบริหาร เช่น Economic Stimulus โครงการไหนที่ยังเบิกจ่ายไม่ครบและไม่เร่งด่วนมาก ต้องพิจารณาว่าจะสามารถดึงกลับมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนได้หรือไม่ 

4. เดินหน้าปฏิรูปประเทศ ตัวอย่างคือประเทศเวียดนาม ในปี 2007 ที่ประเทศเวียดนามเจอวิกฤติ จึงถือโอกาสปฏิรูประเบียบ กฎเกณฑ์ให้ทันสมัย เพื่อเตรียมความพร้อมเมื่อวิกฤตผ่านไป 

5. พัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพราะเมื่อ Global Value Chain กลับมา เราควรจะมีความพร้อม

“วิกฤตศรัทธาต่อตัวผู้นำ” ที่หลาย ๆ ประเทศต้องเจอ มีปัจจัยอะไรของประเทศจีนที่เราสามารถนำมาปรับใช้ได้บ้าง 

เริ่มจากผู้นำต้องมีการจัดการกับข้อมูลโดยการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลจากแหล่งเดียว เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันและลดความขัดแย้ง  สื่อสารถึงปัญหากับประชาชนให้เข้าใจ และทำให้ได้ตามที่สื่อสารไว้กับประชาชน ฟังความเห็นรอบด้าน คิดแผนอย่างรอบคอบ และกล้าตัดสินใจ เพราะถ้าผู้นำทำสิ่งเหล่านี้ได้ดี ประชาชนก็จะเกิดความเชื่อใจและศรัทธาต่อตัวผู้นำในที่สุด