บทความ

#ข่าวเช้าตรู่ส่งถึงมือคุณ! โดยเพจ “ถามอีก กับอิก”

564

1. ธนาคารกลางสหรัฐมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสฟื้น 5% มีหน้าแต่ดอกเบี้ยจะต่ำต่อไปจนถึงปี 2565

เมื่อวานนี้ไม่มีอะไร surprise ตลาดครับ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐมีมติคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% จนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นขึ้นจากโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของราคา

“พวกเราไม่ได้คิดถึงการขึ้นดอกเบี้ย สิ่งที่เรากำลังคิดคือการสนับสนุนเศรษฐกิจ ประคองเศรษฐกิจ” คุณเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดบอกครับ

เบื้องต้นมองว่า ปีนี้ เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ก่อนที่ปีหน้าจะดีดตัวขึ้น 5% ส่วนปี 2565 มองว่าจะโต 3.5% และเฟดยังส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% จนถึงปี 2565

สิ่งที่ต้องติดตามคือ ตอนนี้คนสหรัฐตกงานมากกว่า 20 ล้านคน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เฟดอยากจะเห็นคือ การฟื้นฟูตลาดแรงงานให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

“การฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับสู่ภาวะปกตินั้นจำเป็นต้องใช้เวลา เราจะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อกระตุ้นตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ และเราจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับขึ้นมา”

========

2. Tesla ทำจุดสูงสุดใหม่ ทำให้มูลค่าตลาดแซงโตโยต้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

Tesla ของเฮีย Elon Musk หนึ่งในเจ้าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทะลุ 1 พันเหรียญละครับ หลังจากที่เฮีย Elon บอกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า

โดยมีจุดเด่นที่การออกแบบ ดีไซน์ และการชาร์ตแบตแล้วสามารถวิ่งได้ระยะทางไกล ๆ ครับ

แต่ก็ไม่ได้บอกนะครับว่า จะประกอบรถเมื่อไหร่ และประกอบที่ไหน แต่ก็มากพอที่จะทำให้ตลาดและนักลงทุนตื่นเต้นและดันราคาหุ้นขึ้นไปได้อีกครับ ทำให้มูลค่าตลาดพุ่งปรี๊ดทะลุ 2.16 แสนล้าน

เหรียญ หรือ 6 ล้านล้านบาท!!

สวนทางกับภาพที่บอกว่า โควิด-19 จะทำให้ความต้องการรถควรจะน้อยลงตามภาวะเศรษฐกิจ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ภาพ Tesla สดใส คือ โรงงานที่จีนครับ ที่มีส่วนสำคัญที่จะทำให้การส่งมอบรถในปีนี้ทะลุ 5 แสนคันได้ หรือเพิ่มขึ้น 36%

========

3. Starbucks คาดว่ารายได้จะหายไป 1 แสนล้านบาทในไตรมาสนี้หลังได้รับผลกระทบจากโควิด

เชนร้านกาแฟดัง ได้รับผลกระทบหนักจากโควิดเพราะต้องปิดสาขาทั้งโลกในช่วงที่ใช้มาตรการ lockdown

“คาดว่าจะกระทบหนักถึง 3.2 พันล้านเหรียญ” หรือ 1 แสนล้านบาทซึ่งถือว่าแย่กว่าคาดนะครับ และนั่นก็ทำให้ตลาดลงโทษทำให้ราคาร่วงไปเกือบ 5% เมื่อวานนี้

ถ้าดูตัวเลขสถิติ ในสหรัฐจะเห็นว่ายอดขายต่อสาขามีโอกาสลดลง 43% ในเดือนพ.ค. แต่เดือนนี้อาจจะเริ่มฟื้นหลังจากที่กลับมาเปิดสาขาได้แล้วกว่า 95% แล้วครับ

และปัจจัยที่พอจะทำให้ยิ้มออกได้บ้างคือ ตลาดในจีนครับ ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาเปิดแล้วกว่า 99% แต่ก็ยังมีตัวเลขยอดขายต่อสาขาลดลง 21% ในเดือน พ.ค.

แต่แม้ว่าจะเจอปัญหาแต่ ก็ยังมองว่าจะขยายสาขาในสหรัฐ 300 แห่ง และในจีน 500 แห่ง

ในขณะที่ Starbucks เองก็ปรับกลยุทธ์เน้นคอนเซป pickup มากขึ้นโดยจะมีขนาดเล็กลง และไม่ได้ให้ลูกค้านั่งอยู่ที่สาขาครับ ตอนนี้ปัญหาโควิดกำลังทำให้ผู้บริหารต้องคิดหนักกับคอนเซปสำหรับการเป็นสถานที่ ที่ 3 นอกจากบ้านและออฟฟิศ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเชนร้านนี้มาโดยตลอดครับ

เพียงแต่ยังคงต้องลุ้นว่า พฤติกรรมของลูกค้าจะเปลี่ยนไปหรือไม่ครับ

========

4.#ถามทันที | เวียดนามเนื้อหอมขนาดไหน ทำไมต่างชาติแห่เข้าไปลงทุน?

ถามอีก กับคุณสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อมตะ วีเอ็น (AMATAV)

18:15 อะไรทำให้เวียดนามเติบโตขนาดนี้?

26:33 Sectorไหนที่ไทยยังเด่นกว่าเวียดนาม?

37:16 มีความเสี่ยงที่ทางรัฐจะเรียกคืนที่ดิน?

43:36 มองภาพในอีก 3-5 ปีว่า AMATAV จะเป็นยังไง?

47:32 คู่แข่งของ AMATAV คือใครบ้าง?

53:53 ข้อเสียของเวียดนามคืออะไร?

ดูคลิป https://youtu.be/hoHfuDKuDVo

========