รู้จัก #ธนาคารไทยเครดิต กับเป้าหมายสร้างโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียมกำลังจะเข้า #IPO TAM-EIG 10 months ago รู้จัก #ธนาคารไทยเครดิต กับเป้าหมายสร้างโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียมกำลังจะเข้า #IPO[รู้จักกับธนาคารไทยเครดิต]หลายคนอาจจะคุ้นตากันดีกับโลโก้รูปปลาตะเพียนของธนาคารไทยเครดิต ปลาตะเพียนถือเป็นปลาขนาดเล็กและเป็นปลาที่คนไทยรู้จักกันดี เปรียบเสมือนกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ต้องทำมาหากินในสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ธนาคารไทยเครดิตอยากช่วยสร้างโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียมธนาคารไทยเครดิต ชื่อเดิมคือ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์มาแล้วกว่า 17 ปี โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เพื่อรายย่อย จากกระทรวงการคลังตั้งแต่ปี 2550ไทยเครดิตไม่ได้เป็นธนาคารที่มุ่งเน้นสินเชื่อเพื่อบริโภค แต่มุ่งเป้าไปที่สินเชื่อเพื่อใช้ต่อทุนในการทำมาหากินให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย กลุ่มคนค้าขายที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ โดยมีเป้าหมายที่จะนำผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาอยู่ในระบบสินเชื่อธนาคาร ด้วยการช่วยเหลือทั้งด้านสินเชื่อและความรู้การเงินขั้นพื้นฐาน[โมเดลธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร]ปัจจุบันไทยเครดิตมีสาขากว่า 527 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566) โดยแบ่งเป็นสาขาเงินฝาก 27 สาขา ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพฯ สาขาสินเชื่อ 267 สาขา และสาขา Kiosk อีก 233 สาขา กระจายไปตามชุมชนต่าง ๆ ด้วยคอนเซปต์ Community Bank ธุรกิจหลัก ๆ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ส่วน 1. รับเงินฝากจากลูกค้า เงินฝากส่วนใหญ่มาจากกลุ่มชนชั้นกลางที่มีเงินออม โดยผ่านสาขาเงินฝากทั้ง 27 สาขา2. สินเชื่อ ให้สินเชื่อโดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ประกอบการ Micro SME ผู้ประกอบการรายย่อยหรือพ่อค้าแม่ค้า ผ่านพนักงานปล่อยสินเชื่อ (Relationship Manager) หรือสาขาสินเชื่อ3. การบริหารความเสี่ยงสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงโดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาช่วย[สัดส่วนลูกค้าธนาคารไทยเครดิต]มาดูโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อกันบ้าง โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566)1. สินเชื่อ Micro SME 67.7%ส่วนนี้ถือเป็นสัดส่วนที่มากที่สุด มุ่งเน้นให้สินเชื่อผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ 2. สินเชื่อ Micro / Nano Finance 15.3%ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าในตลาดโดยเฉพาะ มีเจ้าหน้าที่ดูแลช่วยเหลือลูกค้าใกล้ชิด 3. สินเชื่อบ้านแลกเงิน 15.2%สำหรับลูกค้าบุคคล ที่ต้องการรวมหนี้ แบ่งเบาภาระดอกเบี้ย โดยใช้บ้าน ที่ดิน หรืออาคารพาณิชย์เป็นหลักประกัน 4. อื่น ๆ 1.8%[จุดเด่นทางธุรกิจของธนาคารไทยเครดิต]1. รูปแบบธุรกิจมีความโดดเด่น– ไทยเครดิตเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มุ่งเน้นให้บริการสินเชื่อ Micro / Nano Finance และสินเชื่อ Micro SME ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไทยที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบได้เท่าที่ควร ซึ่งธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ยังไม่ทำ– ต้นทุนการดําเนินการต่อสาขาอยู่ในระดับที่ต่ำ และยังมีการให้บริการแบบดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ2. เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง– เงินให้สินเชื่อ และกําไรต่อปีก่อนหักภาษี มีอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) ระหว่างปี 2563-2565 สูงกว่า 30% – ตลาดสินเชื่อมีความต้องการสูง และยังสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้3. มีความสามารถในการทํากำไร– NIM (ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยสุทธิ) สูงกว่า 8% (สําหรับปี 2563 และสําหรับ 12 เดือนย้อนหลังนับถึงวันที่ 30 กันยายน 2566) – อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดําเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) สูงถึง 36% (ณ 30 กันยายน 2566)– ROE (อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเฉลี่ย) มากกว่า 20% (สําหรับปี 2563 และสําหรับ 12 เดือนย้อนหลังนับถึงวันที่ 30 กันยายน 2566)4. มีการบริหารความเสี่ยงที่ออกแบบเพื่อกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง– เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพที่ได้รับการค้ำประกันโดย บสย. ประมาณ 62.4% (ณ 30 กันยายน 2566) – NPL Coverage 165% (ณ 30 กันยายน 2566)– การจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีการปรับใช้ตลอดกระบวนการขององค์กร[ส่องผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง]รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ – ปี 2563 6,371 ล้านบาท – ปี 2564 8,494 ล้านบาท – ปี 2565 11,052 ล้านบาท – 9 เดือนปี 2566 9,784 ล้านบาท กำไรสุทธิ – ปี 2563 1,373 ล้านบาท – ปี 2564 1,935 ล้านบาท – ปี 2565 2,353 ล้านบาท – 9 เดือนปี 2566 2,817 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ของธนาคารฯ – ปี 2563 68,562 ล้านบาท – ปี 2564 97,729 ล้านบาท – ปี 2565 121,298 ล้านบาท – 9 เดือนปี 2566 138,435 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ของธนาคารฯ มีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) อยู่ที่ 33.0% ต่อปี (2563-2565) โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตในทุกกลุ่มสินเชื่อหลักของธนาคารฯ [ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) หุ้น IPO กลุ่มธนาคารครั้งแรกในรอบ 10 ปี]ธนาคารไทยเครดิตกำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ใช้ตัวย่อ CREDIT ด้วยมูลค่าที่ตราไว้ 5.00 บาท/หุ้น ไม่เกิน 28.2% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลัง IPO[วัตถุประสงค์ของการเสนอขาย IPO]– เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุนของธนาคารฯ เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ เพราะทุกครั้งที่มีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น เงินกองทุนก็ต้องเพิ่มตาม – ปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล และโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ– ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ใครที่สนใจหุ้น #CREDIT ช่วงราคาเสนอขาย 28-29 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 23-26 มกราคม 2567 รวมระยะเวลา 4 วัน* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน