ราคาทองแดง อาจพุ่งสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากจีน กดดันทองแดงในคลังสินค้าที่มีปริมาณน้อย
ตามรายงานของ Trafigura ผู้ค้าโลหะชั้นนำ
Kostas Bintas หัวหน้าร่วมฝ่ายโลหะและแร่ธาตุแห่ง Trafigura กล่าวในการประชุม FT Commodity Global Summit ว่า ปัจจุบันสินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างทองแดงนั้น ซื้อขายกันที่ประมาณ 9,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน และมีแนวโน้มที่ราคาซื้อขายจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่จากที่ 10,845 ดอลลาร์ โดยอาจขึ้นไปสูงถึง 12,000 ดอลลาร์
“ผมคิดว่า เป็นไปได้มากที่เราจะได้เห็นจุดสูงสุดใหม่ของราคาทองแดงในอีก 12 เดือนข้างหน้า” เขากล่าวตาม Financial Times “มันกำลังเป็นสิ่งที่ทั้งโลกกำลังต้องการ แต่เราไม่มีเลยงั้นหรือ?”
ทองแดง เป็นสินค้าจำเป็นที่ใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่การก่อสร้าง ไปจนถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ปริมาณทองแดงในคลังได้รับแรงกดดันหลังจากเศรษฐกิจจีนได้เริ่มเปิดหลังจากยกเลิกนโยบาย zero-COVID เมื่อปลายปร 2565 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ปริมาณทองแดงตามฤดูกาลในคลังอยู่ในระดับที่ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2008 ทำให้ราคาทองแดงพุ่งขึ้น 6% ในปีนี้ กลายเป็นโลหะอุตสาหกรรมที่มีราคาปรับตัวขึ้นมามากที่สุด
Goldman Sachs ระบุว่า ความต้องการทองแดงเพิ่มขึ้น 13% ในเดือนที่แล้วจากปีที่ผ่านมา และราคาอาจสูงถึง 15,000 ดอลาร์ในปี 2025
ปริมาณทองแดงในคลังลดลงเร็วขึ้นจากการมุ่งสู่ Green Economies ที่มากขึ้น เนื่องจากทองแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญในเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน (Renewable-Energy)
อย่างไรก็ตาม การสร้างแหล่งขุดใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ในกรณีที่ดีที่สุด S&P Global คาดการณ์ว่าทองแดงจะขาดแคลนและไม่เพียงพอต่อความต้องการถึง 1.6 ล้านตันในปี 2035