Bank of America คาด AI สร้างเม็ดเงิน 15.7 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2030
เมื่อ Steve Jobs ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple ประกาศเปิดตัว iPhone เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2007 หุ้นของบริษัทขณะนั้นซื้อขายกันอยู่ที่ 2.81 เหรียญ 16 ปี ต่อมา Apple ขาย iPhone ได้มากถึง 2.2 พันล้านเครื่องทั่วโลก และมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 54 เท่า
ตั้งแต่ iPhone เกิดขึ้นมาและได้เปลี่ยนแปลงโลก นวัตกรรมหลายอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ล้มเหลว แต่ Bank of America กำลังเดิมพันว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะเป็นข้อยกเว้น โดยอ้างถึงประมาณการจาก PwC ว่า AI จะสร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจถึง 15.7 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2030
“ปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาปฏิวัติทุกสิ่ง” Haim Israel หัวหน้าทีม Global Thematic Research แห่ง BofA กล่าว
“และนี่อาจเป็น ‘iPhone moment’ แห่งยุค AI นี้ ”
แม้ไม่อาจปฏิเสธประเด็นที่ว่า AI จะมาเปลี่ยนโลกได้ แต่การเปรียบเทียบ iPhone กับ AI อาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว
สมาร์ทโฟนของ Apple เป็นช่องทางที่ทำให้ผู้ใช้หลายพันล้านคน สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดายผ่านอุปกรณ์พกพา
แต่ iPhone ไม่ใช่โลกใหม่ที่น่าตื่นเต้นขนาดนั้น
สิ่งที่น่าจะเป็นที่เทียบเคียงได้กับ iPhone น่าจะเป็น ChatGPT แชทบ็อตอัจฉริยะมากกว่า ซึ่งแชทบอตทนี้ได้ ผลักดัน AI ให้เข้าสู่กระแสหลัก คล้ายกับวิธีที่ iPhone พาสมาร์ทโฟนให้เข้าถึงผู้คนทั่วไป
และเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ก่อน iPhone AI ก็เกิดขึ้นก่อน ChatGPT อยู่หลายปีเช่นกัน
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ ChatGPT สามารถเข้าใจเนื้อหาและสร้างบทสนทนาที่เหมือนมนุษย์ได้แล้ว Israel กล่าว
“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ตในยุค 90 และนี่เป็นช่วงเวลาที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังก้าวไปสู่การยอมรับในวงกว้างและ ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง ChatGPT ในที่สุดเราก็สามารถใช้ประโยชน์จากการปฏิวัติข้อมูลได้อย่างเต็มที่” Israel กล่าว
Bank of America เชื่อว่านี่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของ AI ด้วยเหตุล:
AI ถูกใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างนับไม่ถ้วนและเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
ChatGPT และโมเดลภาษาขนาดใหญ่อื่น ๆ (large language model – LLM) ป้อนข้อมูลจำนวนมากมายให้ผู้ใช้ แม้การพัฒนาจะไม่ชัดเจน แต่การเสริมศักยภาพให้กับผู้คนผ่านข้อมูลช่วยเพิ่มผลิตผล (Productivity) ให้มากขึ้นได้
ความสามารถที่เหลือเชื่อของ ChatGPT ทำให้แชทบอทถูกนำมาใช้ภายในชั่วข้ามคืน
Israel ตั้งข้อสังเกตว่า แชทบอทของ OpenAI เข้าถึงผู้ใช้งาน 1 ล้าคนภายในเวลาพียง 5 วัน และผู้ข้าชม 1 พันล้านครั้งในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งเร็วว่า TikTok ถึง 3 เท่าและเร็วกว่า Instagram ถึง 10 เท่า
ความสนใจอย่างต่อเนื่องนั้นชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่กระแสที่ผ่านมาแล้วผ่านไป
จากข้อมูลของ Bank of America ชี้ว่า AI กำลังพัฒนาในอัตราที่เหลือเชื่อ ในทศวรรษที่ผ่านมา พลังการประมวลผลที่จำเป็นในการเทรนชุดข้อมูลจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ สามเดือน จำนวนพารามิเตอร์สำหรับ LLM เพิ่มขึ้น 1,900 เท่า ในอัตราดังกล่าว ทำให้ AI อาจมีพลังมากกว่า ChatGPT นับล้านเท่าในปี 10 ข้างหน้า Israel เขียน
โมเดล AI ที่มีความสามารถมากขึ้น จะยิ่งสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่อาจจินตนาการได้ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม AI ยังมีความน่ากังวลในด้านการเงิน สิ่งแวดล้อม และจริยธรรม การถามคำถามใน ChatGPT ทำให้ผู้สร้างเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า Google ถึง 300 เท่า
Israel กล่าวเสริมว่า AI ใช้พลังงานจำนวนมากในการเทรนและการเขียนโปรแกรมแบบจำลองสามารถสร้างมลพิษมากกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 5 เท่า
นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังสงสัยในด้านจรรยาบรรณเกี่ยวกับการตอบคำถามของแชทบอทหรือ AI