Nouriel Roubini หรือ ‘Dr. Doom’ ฟันธงทั้งหุ้นและพันธบัตรจะขาดทุนหนักไปอีกหลายปีเนื่องจากเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 6%
Roubini นักวิเคราะห์ที่ทำนายวิกฤตปี 2008 ได้อย่างแม่นยำ ตอนนี้เตือนว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงจะส่งผลให้หุ้นและพันธบัตรขาดทุนหนักหลายปี
เขาเตือนนักลงทุนว่า อัตราเงินเฟ้ออาจขยับเข้าใกล้ 6% แม้ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 4.5% เพื่อพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูงนี้ แต่การพยายามขึ้นดอกเบี้ยของ FED กลับส่งผลกระทบต่อหุ้นและพันธบัตรอย่างมาก
ดัชนี S&P500 ร่วงลง 20% ปี 2565 ราคาพันธบัตรร่วงลงท่ามกลางนโยบายการเงินที่เข้มงวด สภาพแวดล้อมการลงทุนอาจยิ่งเลวร้ายลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูง Roubini เตือน
“ถ้าผมพูดถูก อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะไม่ใช่ 2% แต่จะไปอยู่ที่ 6% การขาดทุนที่เราเห็นในปีที่แล้วทั้งในหุ้นและพันธบัตร จะขาดทุนหนักกว่าเดิมในปีต่อ ๆ ไป” เขากล่าว
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมกราคมอยู่ที่ระดับ 6.4% ลดลดงจากสถิติ 41 ปีจากฤดูร้อนที่แล้ว แต่ยังสูงกว่าระดับเป้าหมายเงินเฟ้อของ FED ที่ 2%
ทางการ FED ย้ำว่ามีความจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อให้ลงมาให้ได้ แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะมองว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจผลักดันเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอยในท้ายที่สุด
Roubini ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการทำนายเหตุการณ์เลวร้ายได้อย่างแม่นยำ เขาได้เตือนถึงวิกฤติ Stagflationary Debt Crisis ซึ่งเป็นการรวมกันระหว่าง Stagflation ยุค 70 และวิกฤตการเงินปี 2008
นั่นเป็นเพราะธนาคารกลางจะต้องเลือกระหว่างการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ หรือการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระหนี้แต่ทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงเกินจะควบคุมจนนำเศรษฐกิจไปสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่
หากเป็นกรณีนั้น หุ้นอาจร่วงมากถึง 30% สอดคล้องกับการคาดการ์ของนักวิเคราะห์อื่น ๆ ว่า หุ้นได้เข้าสู่ “เขตมรณะ(death zone)” ซึ่งหุ้นอาจร่วงลง 26% ในไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อทำลายตลาดอย่างต่อเนื่อง
Roubini แนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนจากการลงทุนแบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและพันธบัตร มาลงทุนในสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อแทน ได้แก่การลงทุนนในพันธบัตรระยะสั้น พันธบัตรดัชนีเงินเฟ้อ สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะมีค่า เช่น ทองคำ
