Bank of America มองปีหน้ามีปัจจัยบวกผลักดัน.ให้ตลาดหุ้นบวก 16%
Wall Street ค่อนข้างมองตลาดหุ้นในปี 2023 เป็นขาลง แต่นั่นอาจเป็นปัจจัยบวกที่ผลักดันราคาหุ้นให้ฟื้นตัวได้ในที่สุด ตามรายงานของ Bank of America
นักกลยุทธ์ด้านตราสารทุน ทั้งจาก Morgan Stanley , Bank of America และ Deutsche Bank มองว่า S&P 500 อาจลดลงไปถึงระดับ 3,000 จุดในปีหน้า ซึ่งเป็นการลดลงประมาณ 26% จากระดับปัจจุบัน
แม้แต่ Savita Subramanian นักกลยุทธ์ของ Bank of America ก็ได้มองแนวโน้มตลาดหุ้นสำหรับปี 2023 ว่า
กรณีฐาน (base case) ปีหน้าจะเป็นปีที่ตลาดให้ผลตอบแทนคงที่ ไม่เติบโต (flat year of returns) เนื่องจากนักลงทุนต้องต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย อัตราเงินเฟ้อสูงลิ่ว และความเสี่ยงด้านสภาพคล่องจากนโยบายการลดงบดุลของ Fed
แต่ในกรณีที่ตลาดเป็นสภาวะขาขึ้น (bull case) เธอมองว่า S&P 500 อาจพุ่งขึ้น 13% ไปอยู่ที่ระดับ 4,600 จุด เนื่องจากตลาด Wall Street อยู่ในสภาวะขาลงมากเกินไป
“การที่ Wall Street มีแนวโน้มขาลง คือการบ่งบอกถึงสภาวะขาขึ้น” โดยเธอชี้ไปที่ตัวชี้วัดฝั่งขาย (Sell Side Indicator ) ของ Bank of America ที่อยู่ระดับใกล้ถึงสัญญาณซื้อแล้ว
ตัวชี้วัดดังกล่าวใช้วัดความเชื่อมั่นในกลุ่มนักกลยุทธ์การลงทุนใน Wall Street
เมื่อ Wall Street มองว่าหุ้นอยู่ในสภาวะขาขึ้นอย่างมาก เมื่อนั่นตลาดหุ้นมักจะถึงระดับสูงสุด
ในทางกลับกันเมื่อ Wall Street มองว่าหุ้นอยู่ในสภาวะขาลงอย่างมาก เมื่อนั่นตลาดหุ้นจะถึงจุดต่ำสุด
“ตัวชี้วัดฝั่งขายลดลงมากกว่า 6 จุดเปอร์เซ็นต์ต่อปี ไปอยู่ที่ระดับ 52.8% ซึ่งใกล้เคียงกับสัญญาณ ‘ซื้อ’ แต่ยังคงอยู่ในระดับ ‘เป็นกลาง’ ซึ่งระดับนี้แสดงถึงผลตอบแทน 16.2% ใน 12 เดือนข้างหน้า”เธออธิบาย
สัญญาณ “ซื้อ” จะเกิดขึ้นหากตัวบ่งชี้ฝั่งขายลดลง 1.3% จากระดับปัจจุบันเป็น 51.5%
ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเดือนมกราคม
“ในอดีต เมื่อตัวชี้วัดฝั่งขายอยู่ที่ระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่า ผลตอบแทน S&P 500 12 เดือนจะเป็นบวก 94% และผลตอบแทนเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 22%” เธอกล่าว
ตัวบ่งชี้ที่ขัดแย้งกันนี้ค่อนข้างยากต่อการกำหนดเวลาและอาจไม่ได้ผลเสมอไป เห็นได้จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนมองตลาดเป็นขาลงและราคาหุ้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่เมื่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนถึงจุดต่ำสุดตามตัวบ่งชี้การขายของ Bank of America แล้ว ถึงเวลาที่ต้องเฝ้าติดตามเพื่อหาโอกาสลงทุน