Carl Icahn ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า ตลาดหุ้นจะยังคงไม่ฟื้นตัว โดยเรียกร้องให้ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะปราบเงินเฟ้อได้ และเปิดเผยถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่น่ากังวล
เขายังเปิดเผยอีกว่า เขานั้นได้เดิมพันกับ S&P500 และเคยลงทุนระยะสั้นในสกุลเงินดิจิทัลอยู่บ้างและอาจทุ่มเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์ใน Twitter หาก Elon Musk เข้ามาเสนอราคาให้เขา
และนี่คือสรุป 14 ข้อ จากการให้สัมภาษณ์ของ Icahn
1.”ผมค่อนข้าง bearish มันยากที่จะพูด แต่ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในภาวะตลาดหมี”
2. “เมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ในสภาวะที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงอย่างเช่นที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ เราจะเจอกับ inverted yield curve พันธบัตรพุ่งขึ้นไปถึงเกือบ 5% เราจะเข้าสู่สภาวะถดถอย และผมคิดว่าตอนนี้เราอยู่ในภาวะถดถอยแล้ว”
3.”ตลาดจะร่วงลงได้อีกเพราะเงินเฟ้อจะไม่ไปไหนในระยะสั้นนี้ แล้วเราจะเข้าสู่สภาะวถดถอยที่รุนแรงมากขึ้น นำไปสู่รายได้ที่ลดลง” (เขาพูดถึงแนวโน้มของหุ้น)
4.”ผมไม่คิดว่าภาวะเงินเฟ้อสูงจะจบลง หากย้อนไปช่วงปี 1970-1980 มันต้องใช้เวลาอีกหลายปีเลยทีเดียว เราไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ง่ายขนาดนั้น”
5.”Fed ยังต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อไป มิเช่นนั้นในอนาคตเศรษฐกิจจะแย่กว่าเดิม พวกเขาต้องค่อย ๆ จัดการกับเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อไม่ใช่สิ่งที่แค่กินยาแล้วจะหายไปทันที”
6. “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อพาเราออกจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้” (Icahn พูดถึงปัญหาหลายอย่าง ทั้งเงินเฟ้อ รวมถึงราคาหุ้น ราคาบ้านที่ลดลงจนกระทบความมั่งคั่งของครัวเรือน)
7. “ผม short S&P500 เพราะมีหุ้นเทคโนโลยีจำนวนมากราคาแพงเกินไป ผมคิดว่าด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงเช่นนี้ มันไม่คุ้มเท่าไหร่”
8.”หลายคนโทรหาผมเกี่ยวกับเรื่องนี้และต้องการให้ผมทำอะไรบางอย่างในฐานะนักเคลื่อนไหว ผมเห็นราคาหุ้นที่ลงมา จึงเริ่มเข้าไปซื้อ และคิดว่าน่าจะลองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย” (เขาพูดถึงหุ้น Twitter)
9. “ผมยินดีกับ Musk อย่างยิ่ง เขายืนหยัดในสิ่งเดียวกันกับผม แต่เขารวยกว่าผมมาก ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่สมบูรณ์แบบที่ทำอะไรแบบนั้น และเขาไม่ได้ทำเพื่อเงิน” (Icahn พูดถึงสิ่งที่ Musk กังวลว่า Twitter จะจำกัด freedom of spech ของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม)
10. “ไม่มีใครเชิญผม แต่ถ้ามีผมก็คิดว่าอาจจะลงทุนสัก 1,000 ล้านดอลลาร์ฯ ณ ราคาที่เหมาะสม” (Icahn ถูกถามว่าเขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมการเสนอราคา Twitter ของ Musk มูลค่า 4.4 หมื่นล้านเหรียญหรือไม่)
11. “ผมคิดว่ามันอาจจะระเบิดออกมา และนี่เป็นเพียงหนึ่งในอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจเท่านั้น”
(เขาพูดถึง FTX และการเทขายคริปโต)
12. “ผมเป็นคนฉลาดพอ และก็ได้พยายามหาว่าทำไมคริปโตถึงมีค่า แต่ผมยังคงไม่เข้าใจ ดังนั้นผมจึงไม่เคยซื้อคริปโตเลย แม้จริง ๆ จะมี short บ้าง”
13. “หากคุณมองคริปโตตอนนี้ อย่าง ethereum และมองไปถึงบริษัท คุณจะทำอย่างไรหากคุณไม่ชอบวิธีบริหารจัดการ มันเป็นพื้นที่ที่ไม่มีกฎหมายควบคุม และไม่เห็นว่าจะมีการรับผิดชอบหรือดูแลอะไร”
14. “ผมไม่แปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าไหร่นัก เพราะมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาควบคุม (เขาพูดถึง FTX)