ธนาคารกลางอังกฤษ เผยกองทุนบำเหน็จบำนาญของอังกฤษเกือบอยู่ในสถานะล้มละลาย
ธนาคารกลางอังกฤษ เผย
กองทุนบำเหน็จบำนาญเกือบอยู่ในสถานะล้มละลายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนธนาคารตัดสินใจเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรระยะยว
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือหลังจากเกิดการเทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ (ชาวอังกฤษเรียกว่า Gilts) จำนวนมหาศาล
จากที่รัฐบาลใหม่ได้แถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและลดภาษีเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา
ธนาคารกลางอังกฤษเข้ามาช่วยเหลือด้วยมาตรการฉุกเฉิน โดยเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเป็นเวลาสองสัปดาห์ และหยุดแผนการขายพันธบัตรชั่วคราว
ราคาพันธบัตรระยะยาวที่ร่วงลงทำให้กองทุน Liability-Driven Investment หรือ LDI ที่มีมูลค่า 1.69 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งถือพันธบัตรระยะยาวเป็นสัดส่วนสองในสามของกองทุนผันผวนอย่างแรง
LDIs เป็นหนึ่งในแผนการจ่ายบำเหน็จบำนาญขั้นสุดท้าย ร่วงลงตามมูลค่าของพันธบัตรระยะยาวที่ร่วงลงมา
ซึ่งเงินบำนาญเป็นที่นิยมในสหราชอาณาจักรที่รับประกันรายได้ตลอดชีวิจหลังเกษียณ ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินสุดท้ายหรือเงินเดือนเฉลี่ยของพนักงาน
อย่างไรก็ตามธนาคารอังกฤษเข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ราคาร่วงลงเร็วเกินไป
Jon Cunliffe รองผู้ว่าธนาคารอังกฤษเปิดเผยว่า LDIs ส่งสัญญาณที่น่ากังวลตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 27 กันยายน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้น 67 จุดจากตอนเช้า อย่างที่ทราบกันดีกว่าผลตอบแทนพันธบัตรจะเคลื่อนที่ผกผันกับราคา
Cunliffe กล่าวว่า “ธนาคารได้รับแจ้งจากผู้จัดการกองทุน LDI ถึงอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้น มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ LDI หลายกองอยู่ในสถานะติดลบ หมายความว่า ในวันรุ่งขึ้นกองทุนเหล่านี้จะอยู่ในสถานะล้มละลาย…”
“พันธบัตรจำนวนมากที่ธนาคารถือไว้เป็นหลักประกันของกองทุน LDI มีแนวโน้มถูกเทขายและอาจส่งผลต่อความไม่มั่นคงทางการเงินในวงกว้าง”
ธนาคารกลางอังกฤษทำงานตลอดทั้งคืนวันอังคารที่ 27 กันยายน เพื่อหาทางเข้าไปแทรกแซงและเลี่ยงวิกฤตที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยกระทรวงการคลังได้เข้ามาช่วยเหลือในเช้าวันรุ่งขึ้น
ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ลงลงกว่า 100 จุด หลังธนาคารประกาศแผนช่วยเหลือฉุกเฉินในวันที่ 28 กันยายน
Cunliffe ตั้งข้อสังเกตว่า ผลตอบแทนพันธบัตรไม่เคยเคลื่อนไหวมากขนาดนี้มาก่อน ระยะเวลาเพียงสองวัน พันธบัตรอายุ 30 ปี มีผลตอบแทนเพิ่มขึ้นมากกว่า 35 จุด
“และระยะเวลาเพียง 4 วัน ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้นมากกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตั้งแต่ปี 2000 อย่างเหตุการณ์เทขายสินทรัพย์เพื่อถือเงินสดในช่วงโควิดปี 2020
ความผันผวนที่เกิดขึ้นดังกล่าว รุนแรงกว่าเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อื่น ๆ กว่าสามเท่า
สร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากต่อตลาดพันธบัตรระยะยาว”