Jim Paulsen นักกลยุทธ์จาก Wall Street มองว่า ศึกปราบเงินเฟ้อของ Fed ใกล้จบเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งถึงจุดสูงสุดแล้ว และจากอดีต นี่เป็นเวลาที่ดีในการเข้าไปซื้อหุ้น
เขาให้สัมภาษณ์ ว่า เขามองเห็นสองสามปัจจัย ทั้งการเติบโตของการเงินและการคลังที่ช้าลง ค่าเงินดอลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น
Paulsen หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนแห่ง Leuthold Group มองว่า “ปัจจัยเหล่านี้กำลังเกิดขึ้นและนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมอัตราเงินเฟ้อถึงกำลังพลิกกลับและมีแนวโน้มคลี่คลายในปีหน้า”
ดัชนีราคาผู้บริโภคคลี่คลายช่วงฤดูร้อน แม้จะช้ากว่าที่คาดไว้ โดยค่อย ๆลดลงเหลือ 8.3% ในเดือนสิงหาคม จาก 8.5% ในเดือนกรกฎาคม และ 9.1% ในเดือนมิถุนายน
แต่มาตรวัดเงินเฟ้อของสหรัฐฯอย่างดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.7% ในเดือนกรกฎาคม
Fed มีเป้าหมายจะลดอัตราเงินเฟ้อลงสู่ที่ระดับ 2% Paulsen กล่าวว่า งานของ Fed ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
“ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Fed จะต้องทำอะไรอีกเพราะผมคิดว่าสงครามเงินเฟ้อจบลงแล้ว เราแค่ยังมองไม่เห็น ในอดีต ช่วงที่เงินเฟ้อจึงจุดพีค เป็นช่วงเวลาที่ดีมากในการซื้อหุ้น”
เขาตั้งข้อสังเกตว่า มูลค่าของ S&P500 อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ขณะที่นักลงทุนกำลังมองโลกในแง่ร้ายอย่างมาก ซึ่งนักลงทุนที่ชอบสวนกระแสอาจมองว่านี่กำลังเป็นขาขึ้นของตลาดหุ้น
นโยบายที่เข้มงวดเกินไปของ Fed ทำให้เศรษฐกิจส่งสัญญาณขาลงต่อเนื่อง
Paulsen ชี้ไปที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงจนจับต้องไม่ได้
“มันมากเกินไปจนเกิดความเสียความสมดุล” เขากล่าว
“มีบางอย่างต้องเปลี่ยน เพราะอาจมีบางอย่างพังทลายลง บางที่เราอาจได้รับรายงานเศรษฐกิจที่ไม่แย่พร้อม ๆ กับอัตราเงินเฟ้อที่ดี
แต่ผมคิดว่าเราใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของนโยบายที่เข้มงวดของ Fed แล้ว และหลาย ๆ อย่างก็น่าจะยังดีอยู่ ผมคิดว่าปีหน้าเราจะมีปีที่ดีที่เดียว”