tam-eig.com

15 ธีมลงทุน Big Idea 2021 ของ #Ark Invest ที่นักลงทุนไทยไม่ควรพลาด

อย่าลืม Subcribe จะได้ไม่พลาด

Facebook | Youtube | Line | Website

#ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก

กลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั้งโลกจับตามองครับ เพราะ Ark Invest ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้มีเงินไหลเข้ามากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ด้วยมูลค่า AUM สูงถึง 4 หมื่นล้านเหรียญ

หลัก ๆ แล้วสไตล์คือ การมองหาโอกาสลงทุนใน #นวัตกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูง

แอดอ่านแล้วตื่นต้นกับโลกอนาคต และเห็นโอกาสในการลงทุนที่น่าศึกษาต่อเพียบเลยครับ ไปลุยกันเลยครับ

#ธีมที่1: Deep Learning

Ark Invest มองว่า #DeepLearning จะเป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนโลก พลิกโฉมที่สำคัญที่สุดในช่วงชีวิตของเราเลยครับ

หลัก ๆ แล้ว Deep Learning เป็นรูปแบบหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่จะใช้ข้อมูลเอาไปเขียนซอฟต์แวร์อีกทีนึง

และการที่มันเรียนรู้และเขียนซอฟต์แวร์ได้อัตโนมัตินี่แหละครับ จะกลายเป็นว่า Deep learning จะพลิกโฉมในทุกอุตสาหกรรม ทุกวงการ

ทั้งนี้ Ark ประเมินว่า Deep Learning จะสร้างมูลค่าตลาดให้กับหุ้นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมากถึง 30 ล้านล้านเหรียญ (คูณเป็นตัวเลขเงินบาทไม่ถูกเลยครับ) ภายในเวลา 15-20 ปีครับ

ยกตัวอย่างการนำไปใช้จริง เช่น ลำโพงอัจฉริยะ, รถยนต์ไร้คนขับ, แอพสำหรับผู้บริโภคทั่วไปอย่างพวกเรา เช่น Tiktok ก็ใช้ Deep Learning

#ธีมที่2: The Re-Invention of the Data Center

โดย Ark Invest มองว่า ระบบประมวลผล Data Center กำลังจะอยู่ในช่วงที่ปฏิวัติครั้งใหญ่เลยครับ

เหตุผลเพราะมีตัวประมวลผลที่จะทำให้ ถูกกว่า, เร็วกว่า, มีประสิทธิภาพมากกว่า และมองว่ามีโอกาสที่จะมาแทนที่ Intel ซึ่งก่อนหน้านี้ครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 90% ของรายได้ทั้งโลก

สำหรับ cloud computing มองว่าเทคโนโลยีชิปประมวลผลของ ARM, RISC-V และ GPU มีโอกาสที่จะมีบทบาทมากขึ้น โดยสามารถเติบโตได้มากถึง 45% ในแต่ละปี และจะมีรายได้แตะระดับ 1.9 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2030 ครับ

ส่วน data center ที่มี GPUs ที่จะมีบทบาทมากขึ้นจะเติบโตมากถึง 21% ต่อปี ขึ้นไปแตะระดับ 4.1 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2030 โหดสุด ๆ ครับ

#ธีมที่3: Virtual Worlds

คำว่า Virtual Worlds ครอบคลุมทั้งวีดีโอเกม, AR, และ VR ครับ

หลัก ๆ แล้วจะเป็นการสร้างสภาพแวดล้มที่สร้างขึ้นมาโดยคอมพิวเตอร์ และทำให้ใครก็ได้สามารถเข้าไปใช้ได้ และใช้เมื่อไหร่ก็ได้ (เหมือนในหนังเลยครับ) สิ่งที่ Ark มองคือตอนนี้ Virtual Wolds ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นครับ

มองว่ามีโอกาสเติบโต 17% และจะทำให้มูลค่าธุรกิจเพิ่มขึ้นจาก 1.8 แสนล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 แสนล้านเหรียญภายในปี 2025 เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ตอนนี้ Virtual Wolrds ยังเป็นอิสระต่อกัน แต่ต่อไปในอนาคตทุกอย่างมันจะเชื่อมโยงกัน สามารถทำงานร่วมกัน กลายเป็นโลกเสมือนจริงที่เรียกว่า Metaverse

#ธีมที่4: Digital Wallets

กระเป๋าเงิน digital จะมีมูลค่าสูงถึง 4.6 ล้านล้านเหรียญในสหรัฐภายในปี 2025 ครับ โดยมีมูลค่าระหว่าง 250-1900 เหรียญต่อผู้ใช้งานในวันนี้ และจะเพิ่มเป็น 2 หมื่นเหรียญเลยทีเดียวครับ

เอาง่าย ๆ คือตอนนี้ Digital Wallets เองก็เริ่มเจาะตลาดให้บริการทางการเงินในรูปแบบเดิมๆได้แล้วครับ รวมถึงการให้กู้ยืมเงิน และจะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่น่าตื่นเต้นมาก

(ยกตัวอย่างจีน ที่การชำระเงินผ่านมือถือ เติบโต 15 เท่าภายในเวลาแค่ 5 ปี และมีมูลค่าตอนนี้สูงถึง 36 ล้านล้านเหรียญใหญ่ 3 เท่าของ GDP จีน)

#ธีมที่5: Bitcoin’s Fundamentals

ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2017 Ark Invest มองว่าราคา bitcoin พุ่งปรี๊ดเป็นเพราะกระแสครับ แต่ตอนนี้เริ่มมีความไว้ใจ มีความน่าเชื่อถือ และหลายบริษัทเริ่มมองว่าจะสะสมเสมือนว่าเป็นเงินสด ในงบดุลของตัวเอง

เอาแค่ว่า สมมติบริษัทใน S&P 500 ทุกบริษัทแบ่งเงินแค่ 1% ของเงินสดเข้าไปลงทุนใน bitcoin แค่นี้ก็จะเห็นว่ามูลค่ามีโอกาสพุ่งแตะระดับ 4 หมื่นเหรียญได้สบาย ๆ

เพราะฉะนั้นก็เลยมองว่า การที่ bitcoin เพิ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ไปไม่นานนี้ ในเชิงพื้นฐานยังถือว่าแข็งแกร่งอยู่ครับ

#ธีมที่6: Bitcoin: Preparing For Institutions

ไม่ใช่แค่นี้ครับ bitcoin กำลังจะกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจ และมองว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตฟอลิโอ ที่จะต้องมีการจัดพอร์ต และแบ่งพอร์ตมาลงทุนด้านนี้ครับ

และมองว่า bitcoin มีโอกาสพุ่งจากมูลค่า 5 แสนล้านเหรียญ (เดือนธันวาคม) กลายเป็น 1-5 ล้านล้านเหรียญภายใน 5-10 ปีเลยทีเดียวครับ และแนะนำด้วยว่าสำหรับนักลงทุนควรจะมี bitcoin ติดพอร์ตไว้บ้าง

#ธีมที่7: Electric Vehicles (EVs)

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และมีนัยยสำคัญมากๆ โดยจะเริ่มมีราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ทั่วไปที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้มากขึ้นครับ

ทั้งนี้ผู้นำในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะพัฒนาแบตเตอรี่ที่จะช่วยทำให้การขับขี่ได้ไกลขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำลงมาก และมองว่าจะมีโอกาสเติบโต 20 เท่า จากตอนนี้มียอดขาย 2.2 ล้านคัน จะเพิ่มกลายเป็น 40 ล้านคันในปี 2025 ครับ

แต่ความเสี่ยงในมุมการลงทุนคือ ถ้าค่ายรถยนต์ที่เป็นเจ้าตลาดเดิม สามารถเปลี่ยนโฉมตัวเองให้พัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ไร้คนขับได้อย่างประสบความสำเร็จ

#ธีมที่8: Automation

ยุคของหุ่นยนต์กำลังมาแล้วจ้า และจะช่วยคน และช่วยสร้างงานด้วยนะ

หลายคนยังมีความกลัวว่าระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะทำให้คนตกงาน แต่ Ark กลับเชื่อว่า ระบบอัตโนมัตินี้จะช่วยทำให้คนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยเพิ่มผลิตภาพ และทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นด้วยครับ

โดยจะมีมูลค่าตลาด ที่สูงถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญในช่วง 5 ปีนี้ เพิ่มขึ้นปีละ 5% ครับ

#ธีมที่9: Autonomous Ride-Hailing

ธุรกิจที่ให้บริการบนแอพพลิเคชันเพื่อใช้เรียกยานพาหนะในเครือข่ายผู้ให้บริการ เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซค์ เป็นสิ่งที่เราเริ่มคุ้นชินละครับ แต่สิ่งที่ Ark มองคือ อนาคตจะกลายเป็นระบบอัตโนมัติ ไร้คนขับครับ

โดยมองว่าจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางให้เหลือเพียง 10% ของต้นทุนแท็กซี่ในวันนี้ โอ้โห…​มิน่าเค้าถึงมองว่ากำลังจะมีการใช้อย่างแพร่หลายครับ

ทั้งนี้ Ark มองว่า แพลตฟอร์ม ride-hailing นี้ จะสร้างรายได้มากถึง 1 ล้านล้านเหรียญต่อปี ภายในปี 2030

และค่ายรถยนต์จะมีกำไร 2.5 แสนล้านเหรียญ และคนที่เป็นเจ้าของรถจะมีกำไรถึง 7 หมื่นล้านเหรียญเลยทีเดียวครับ

#ธีมที่10: Delivery Drones

อันนี้น่าสนใจครับ โดยมองว่า โดรนจะมาลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและคนได้อย่างมีนัยยสำคัญ

ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการลดต้นทุนแบตเตอรี่, และเทคโนโลยีระบบอัตโนมัตินี่แหละครับจะช่วยผลักดันทำให้โดรนเกิดขึ้นได้

และอีกไม่นานครับ Ark มองว่าโดรนที่จะนำมาขนส่ง ทั้งสินค้า อาหาร และคน จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และสะดวกสบายมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และโดรนก็จะมาพลิกโฉมการช็อปปิ้ง ลดเวลาการท่องเที่ยว การเดินทาง และช่วยชีวิตคนได้

โดยมองว่า แพลตฟอร์มในการส่งนี้จะสร้างรายได้มากถึง 2.75 แสนล้านเหรียญในการส่ง, สร้างรายได้ใน hardware อุปกรณ์มากถึง 5 หมื่นล้านเหรียญ และรายได้จาก mapping เพิ่มเป็น 1.2 หมื่นล้านเหรียญเลยทีเดียวครับ

ธีมที่ 11: Orbital Aerospace

ARK มองว่าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบินและอวกาศกำลังจะกลายเป็นขาขึ้นครับ

เหตุผลที่สำคัญคือต้นทุนจรวดและดาวเทียมลดลงอย่างมาก

สิ่งที่ทำให้ต้นทุนลดลงนั่นเป็นเพราะการพัฒนาในเทคโนโลยี deep learning, การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ, ระบบ เซ็นเซอร์, การพิมพ์สามมิติ รวมถึงหุ่นยนต์

ซึ่งก่อนหน้านี้เทคโนโลยีเหล่านี้มีต้นทุนราคาแพง แต่ตอนนี้ต้นทุนเริ่มลดลง ทำให้การ ปล่อยดาวเทียมและจรวดจะอยู่ในยุคเฟื่องฟูมาก ๆ

ทางด้าน ARK วิเคราะห์แล้วว่าโอกาสในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ การบินและอวกาศรวมถึงการเชื่อมต่อดาวเทียม และการเดินทางด้วยเครื่องบินที่มีความเร็วเหนือเสียงอาจจะมีมูลค่าที่สูงมากกว่า 3.7 แสนล้านเหรียญ ในแต่ละปีเลยทีเดียวครับ

ธีมที่ 12: 3D Printing

การพิมพ์สามมิติจะมีความสำคัญอย่างมากครับเราจะช่วยประหยัดเวลา,
ต้นทุนและการปล่อยของเสียแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างอุปกรณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง

โดยระบบการพิมพ์สามมิติจะช่วยลดระยะเวลาระหว่างการออกแบบดีไซน์และการผลิต นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยทำให้ดีไซน์เนอร์ทำงานได้ ง่ายมากขึ้น

และความเจ๋งอีกอย่างคือการช่วยลดความซับซ้อนของทั้งซัพพลายเชนและมีต้นทุนเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวของโรงงานการผลิตในรูปแบบเดิม ๆ

โดย ARK วิเคราะห์แล้วว่าการพิมพ์สามมิติจะช่วยปฏิวัติวงการการผลิตซึ่งจะทำให้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 60% เพิ่มมูลค่าจาก 1.2 หมื่นล้านเหรียญในปีที่แล้ว กลายเป็น 1.2 แสนล้านเหรียญ ภายในปี 2025

ธีมที่ 13: Long Read Sequencing

เป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ที่จะช่วย อ่านลำดับนิวเคลียร์โอไทด์ แบบสายยาวซึ่งจะมีส่วนช่วยทำให้เกิดการปฏิวัติยีนในร่างกายของมนุษย์

ทาง ARK เชื่อว่าเทคโนโลยี long read จะช่วยทำให้เกิดความแม่นยำที่สูงมาก และสามารถช่วยตรวจจับตัวแปรที่มีความหลากหลายได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีแบบเดิม

และภายในปลายปี 2025 ต้นทุนของเทคโนโลยีใหม่ลดลงมาจนเกือบจะเท่ากับเทคโนโลยีเดิม

ARK เชื่อว่า รายได้ของเทคโนโลยีนี้จะเติบโตมากถึง 82% ต่อปีและจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 250 ล้านเหรียญ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นกลายเป็น 5 พันล้านเหรียญ ภายในปี 2025

ธีมที่ 14: Multi-Cancer Screening

สิ่งที่น่าตื่นเต้นถัดมาคือ การทดสอบตัวอย่างเลือดเพื่อหาเซลล์มะเร็ง จะช่วยป้องกันโอกาสในการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งได้มากกว่าวิธีในการรักษาที่เคยทำกันมาในประวัติศาสตร์โลก

ARK ประเมินว่าเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ใหม่จะช่วยทำให้ต้นทุนในการตรวจหาเชื้อมะเร็งลดลงมา 20 เท่าจากเดิมเคยสูงถึง 30,000 เหรียญ ในปี 2015 จนตอนนี้เหลือเพียงแค่ 1500 เหรียญ

และในอนาคตต้นทุนจะลดลงมาเพิ่มเติมได้อีก 80% เหลือเพียงแค่ 250 เหรียญภายในปี 2025

นั่นหมายความว่ามูลค่าตลาดของเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจจับโรคมะเร็งจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 1.5 แสนล้านเหรียญในสหรัฐอเมริกาแต่ที่สำคัญมากกว่าคือจะช่วยทำให้จำนวนคนมากถึง 66,000 คนรอดพ้นจากการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในแต่ละปีในประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วจะช่วยชีวิตคนได้มากถึง 1.4 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียวครับ

ธีมที่ 15: Cell and Gene Therapy: Generation 2

ปัจจุบันโลกมนุษย์จะมีโรคหลายโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หรือเพราะโรคที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ตอนนี้การรักษาเซลล์ และยีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น โดย ARK มองว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากถึง 20 เท่าตัว

เหตุผลที่เชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีนี้จะมาได้แน่นอนนั่นก็เป็นเพราะว่า เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์, การตัดต่อพันธุกรรม จะช่วยทำให้ลดโอกาสล้มเหลว

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาตลาดนี้ก็เพิ่มขึ้นห้าเท่าจากปี 2010

มีความคิดเห็นในแต่ละเทรนด์ยังไง ลองพิมมาแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ

หรือถ้าคิดว่า เทรนด์ไหนที่น่าลงทุนลองพิมพ์มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ

#เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต

อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย

ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน คลิกเลย

#ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดีๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ

Exit mobile version