คุณธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทฮั่วเซ่งเฮง ได้พูดถึงสถานการณ์ภาพรวมราคาทองคำเอาไว้ว่า ปัจจัยที่ทำให้ทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้ มาทั้งจากสงครามยืดเยื้อแล้วมีความรุนแรงมากขึ้น ธนาคารกลางสหรัฐฯมีการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ราคาพลังงานที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าทิศทางจะเป็นอย่างไรต่อไป หรือมีประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากค่าเงินที่อ่อนค่ามากจนมีปัญหาทางการเงิน ทำให้ต้องหันมาถือทองคำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำถือว่ามีการปรับตัวลดลงน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ นั่นก็เพราะมีเรื่องของปัจจัยภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้ราคาทองคำได้รับอานิสงส์อยู่ แต่ก็จะถูกกดดันจากอีกฝั่งหนึ่งก็คือ การแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีการแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 ปี แต่เมื่อใดก็ตามที่ธนาคารสหรัฐฯมีการขึ้นดอกเบี้ย ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ทำให้ทองในสกุลโลกซึ่งอ้างอิง USD ถูกกดดันให้ราคาลดลง
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในปีนี้ มีประเด็นที่ให้จับตาดูการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ มองว่าราคาทองจะลง มากกว่าขึ้น เพราะตอนนี้เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นการขึ้นดอกเบี้ยเท่านั้น โอกาสกดดันทองช่วงนี้ยังมี ให้แนวรับในปีนี้ไว้ที่ 1,650 -1,700 เหรียญ หรือ 29,000-29,500 บาท และ แนวต้าน 1,950-2,000 เหรียญ หรือ 31,500-32,000 บาท