เกิดอะไรกับดราม่า Web 3.0 Ethereum เข้าภาวะเงินฝืดดีจริงหรือ?

เกิดอะไรกับดราม่า Web 3.0 Ethereum เข้าภาวะเงินฝืดดีจริงหรือ? 

วิวัฒนาการของ Web 

Web 1.0 เป็นเว็บไซต์ที่เข้าไปเพื่อดูข้อมูลต่าง ๆ โดยผู้พัฒนาเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง สามารถปรับเปลี่ยนแพลตฟอร์มให้เป็นแบบไหนก็ได้ ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเป็น Web 2.0 ที่ผู้ใช้สามารถลง Content ต่าง ๆ ได้ และเว็บไซต์ยังมีการเก็บข้อมูลผู้ใช้ เพื่อนำไปใช้ทางการตลาด หรือประโยชน์ด้านอื่น ๆ อย่างเช่น ํYoutube หรือ Facebook ส่วน Web 3.0 เป็นเว็บที่มีการพัฒนาให้ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างแท้จริง และสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวได้ 

แล้ว Web 3.0 จะไปถึงภาพตามอุดมคติจริงหรือ? 

กว่า Web 3.0 จะไปถึงภาพตามอุดมคติ ยังต้องใช้เวลาอีกค่อนข้างมาก  เพราะเจ้าของ Web 3.0 จริง ๆ ต้องเป็นนักลงทุนที่ลงทุนในโปรเจค Blockchain ต่าง ๆ ประเด็นถกเถียงคือ Web 3.0 ไปถึงจุดนั้นแล้วจริงหรือแค่คล้ายสิ่งที่ควรจะเป็นเท่านั้น ซึ่งปัญหาที่เราเจอส่วนมากเป็นเรื่องของการกำกับดูแล และตัวกฎหมายที่เกี่ยวข้องมากกว่า และเป็นเรื่องของอำนาจที่ทุกคนต้องช่วยกันพยายามรั้งให้ได้มากที่สุดเพื่อรักษาอำนาจ คล้ายกับยุคที่เกิด Internet ที่สุดท้ายก็จะมีบางประเทศที่ทำได้ 

ภาพของ Web 3.0 ที่ควรจะเป็น 

รูปแบบของ Web 3.0 ที่เห็นภาพชัดที่สุดก็คือ  NFT ที่เราสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นได้จริง ๆ ขณะที่ผู้ควบคุมกฎ จะมีหน้าที่ปกป้องประชาชน เพราะเป็นกระแสแรงกดดันจากประชาชนเมื่อมีคนใช้ในทางไม่ดีเท่านั้น อย่างเช่น การฟอกเงิน 

Ethereum เข้าสู่ภาวะเงินฝืด?

Ethereum มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินมาหลายครั้ง เพื่อแก้ปัญหาค่าแก๊สที่ถูกปั่นขึ้นไป ซึ่งค่าแก๊สที่ถูกปั่นขึ้นไปก็เนื่องมาจากการที่มีคนเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มเยอะจนทำให้ค่าโอนขึ้นไปสูง  แต่ Ethereum  ก็เป็นเหรียญแรก ที่ประสบความสำเร็จในการทำ Smart Contract ให้เกิดขึ้นจริง ทำให้คนเข้าถึง DeFi ได้ง่าย และคนจะใช้ Ethereum น้อยลงหรือไม่นั้น ก็ยังไม่เห็นภาพชัดเจน เพราะ Ethereum ยังมีเรื่องของ Network Effect เข้ามาเกี่ยวข้อง ในมุมความเสี่ยงด้านการลงทุน มองว่าถ้าเรารับรู้ว่าเหรียญนั้นกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง และเรารับความเสี่ยงตรงนั้นได้ ก็สามารถลงทุนได้ เพราะสิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่า “เรากำลังลงทุนกับอะไร”