รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง ได้พูดถึงสถานการณ์เกมรัสเซียหลังสวีเดน-ฟินแลนด์ประกาศร่วม NATO ว่า ถ้าเรามองจากมุมของประเทศรัสเซียในการสนับสนุนไปทางรัสเซีย จะรู้สึกแปลกใจที่ว่าทำไมทั้งสวีเดนและฟินแลนด์ถึงต้องดำเนินการเข้า NATO ซึ่งการเข้า NATO ของทั้งสองประเทศนั้น เราต้องมองจากมุมของผู้ถูกกระทำ เช่นหากเราอยากรู้ว่าจีนคิดอย่างไร เราก็ต้องเข้าไปดูแนวคิดของสี จิ้น ผิง หรือหากอยากรู้ว่าอเมริกาคิดอย่างไร ก็ต้องดูแนวคิดของโจ ไบเดน ไม่ใช่ดูว่าเราคิดอย่างไร
ซึ่งหากมองในมุมของประชาชนทั้งสองประเทศแล้ว ก่อนที่ทางรัสเซียจะยกทัพบุกประเทศยูเครน ประชาชนทั้งสองประเทศไม่ได้แสดงท่าที่ว่าอยากเข้าร่วมกับทาง NATO มากนัก หากมองจากทางรัฐบาลฝ่ายซ้ายแล้ว ก็ไม่ได้มีแนวคิดที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO แต่อย่างใด จนกระทั่ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่รัสเซียได้ยกพลบุกยูเครน ปรากฎว่าประชาชนส่วนใหญ่เปลี่ยนความคิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากตอนแรกที่เห็นด้วยกับการเข้า NATO เพียง 20 % มาตอนนี้เห็นด้วยกว่า 70 % แล้ว แม้กระทั่งพรรคสังคมนิยมจากตอนแรกไม่เห็นด้วยที่จะเข้า NATO จนตอนนี้ทางพรรคตัดสินใจด้วยเสียงข้างมากแล้วว่าควรจะเข้า NATO
จะเห็นได้ว่าสวีเดน ฟินแลนด์ อยากสลัดความเป็นกลางหลังจากเห็นภัยคุกคามที่อยู่ใกล้มานานแล้วจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งทั้งสองประเทศก็มีการเตรียมตัวมานานพอสมควร จนกระทั่งเกิดสงครามรัสเซีย ยูเครนที่เข้ามาเป็นตัวเร่ง ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลมากกว่าเดิม และพบว่าทางรอดคือ ต้องได้รับการปกป้องจาก NATO ทำให้ประชาชนบีบให้รัฐบาลต้องเห็นด้วยว่าประเทศต้องเข้าเป็นสมาชิก NATO
สำหรับฝั่ง NATO ที่เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากการช่วยเหลือยูเครนในตอนแรกไปทำให้ทำให้รัสเซียอ่อนแอลงแทน โดยทำให้รัสเซียไม่แข็งแกร่งพอจนสามารถละเมิดกฎบัตรประชาชาติได้ ซึ่งสิ่งที่ NATO จะได้จากการที่สวีเดน และฟินแลนด์ประกาศเข้าร่วม NATO คือทำให้เอกภาพของ NATO สูงขึ้น เพราะเมื่อประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็มีอำนาจต่อรองมากขึ้น