1. ”ตอนนี้เปรียบเสมือนกับสงครามทางเศรษฐกิจ” ปู่บัฟเฟตต์พูดเสียงเหนื่อยๆ
2. นอกจากนี้ปู่บัฟเฟตต์ยังกระตุ้นให้สภาคองเกรส ขยายวงเงินช่วยเหลือแกธุรกิจขนาดเล็ก หลังจากที่เจอศึกหนักจากโควิด-19 เพราะมีการใช้มาตรการ lockdown เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด
3.”ผมคิดว่า จริงๆแล้วประเทศนี้ เราเป็นหนี้บุญคุณของธุรกิจขนาดเล็กหลายล้าน ราย” “แนะนำให้ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือ และช่วยทำให้เราผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบาก และนำไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”
4. ปู่บอกว่า ในอดีตเราเข้าสู่ภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งช่วงนั้นหลายอุตสาหกรรมต้องปิดตัวลงไป และทุกโรงงานก็เร่งผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์
5. “รอบนี้จะเห็นว่ามาตรการ lock down ทำให้หลายธุรกิจเจอผลกระทบไปเต็มๆ แต่บางธุรกิจกลับรุ่งเรืองได้” “ผมคิดว่า ประเทศนี้เป็นหนี้บุญคุณของนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีมากกว่าหลายล้านแห่งทั่วประเทศครับ”
6. ตอนนี้จะเห็นว่าการสมัครเข้าร่วมโครงการเช่น PPP (Paycheck Protection Program) สินเชื่อเพื่อคุ้มครองธุรกิจซึ่งให้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษได้หมดอายุไปแล้ว แม้ว่าจะมีตังเหลือในโครงการก็ตาม
และอย่างที่เราเห็นแหละครับว่า ทางด้านสภาคองเกรสเอง ตอนนี้ก็คุยกันยังไม่จบ ถึงแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ทำให้หลายธุรกิจตอนนี้เริ่มขาดสภาพคล่อง โดยเฉพาะเจ้าเล็กๆน่าเป็นห่วงมาก
7. ทั้งนี้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 9.08 แสนล้านเหรียญ ซึ่งรวมถึงงบช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญ
รวมถึง การช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหาร (เจอปัญหาหนักสุดๆเพราะต้องใช้มาตรการ social distancing เว้นระยะห่างทางสังคม)และสถานที่ที่ให้ความบันเทิง (ที่ต้องปิดตัวลงไปชั่วคราว)
8. “สภาคองเกรสต้องลงมือผลักดันมาตรการด่วนที่สุด” “มันคงจะเป็นเรื่องที่โง่เขลามากๆ ถ้าไม่ผลักดันมาตรการเหล่านี้ และไม่ช่วยให้ผู้คนรวมถึงผู้ประกอบการรายเล็ก ให้กลับไปอยู่ในจุดที่เค้าเคยอยู่ ตอนก่อนเกิดวิกฤต” ปู่ซัดแหลกครับ
9. “พวกเรายังคงต้องการ การอัดฉีดเงินเพิ่มอีกเพื่อทำให้ภาระกิจนี้สำเร็จ” “ตอนนี้สภาคองเกรสกำลังถกเถียงกันอย่างหนักตอนนี้ และผมคาดหวังมากว่ามีมติ ให้ขยายโครงการ PPP ต่อไป”