พี่ปุ๊ คุณจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ได้พูดถึงการที่ราคาน้ำมันดีเซลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นว่า เมื่อมาดูราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นของประเทศไทยแล้ว ถ้าคิดเป็นบาทต่อลิตรก็จะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อลิตร ถ้าหากรวมค่าอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดไม่ว่าจะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็จะคิดเป็นเงินกว่า 39 บาทต่อลิตรแล้ว เพียงแต่ว่าโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศไทยนอกเหนือจากราคาหน้าโรงกลั่นแล้ว จะมีภาษีมูลค่าเพิ่มที่คิดอยู่ประมาณ 3 บาท รวมไปถึงภาษีรัฐบาล ภาษีกองทุนพลังงาน รวมแล้วประมาณ 3-4 บาทต่อลิตร พอรวมทั้งหมดตรงนี้แล้ว ทำให้กองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยเหลือตรงส่วนนี้ เพื่อที่จะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลบ้านเราตรึงอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร ซึ่งราคาน้ำมันตรงนี้กองทุนน้ำมันก็จะช่วยอยู่ที่ 9 บาทต่อลิตร
แม้ว่าตลาดราคาน้ำมันดิบโลกมีการปรับตัวลดลงมาค่อนข้างเยอะจากจุดยอดของมันที่ 140 เหรียญมาอยู่ที่ 100 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ตลาดน้ำมันสิงคโปร์ที่ประเทศไทยใช้ในการอ้างอิงนั้น ราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลงตาม กลับกลายเป็นว่าราคาน้ำมันดิบกับก๊าซมีช่องว่างราคาที่ห่างกันมากขึ้น
รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้พูดถึงการที่ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นว่า ตอนนี้กล้าพูดได้เลยว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังเจอกับปัญหาของแพงส่วนคำถามที่ว่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นทั้งปี เพราะว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะยังคงมีความยืดเยื้อ สงครามนี้ส่งผลกระทบทั้งราคาน้ำมัน ก๊าซและก็วัตถุดิบอื่น ๆ เช่นอาหาร อาหารสัตว์ เหล็ก อะลูมิเนียม คิดว่าวิกฤตครั้งนี้หนักกว่าวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะสินค้าต่าง ๆ จะพากันปรับตัวเพิ่มขึ้นกันหมด
ตอนนี้ราคาข้าวสารมีการปรับเพิ่มขึ้น 10 % ส่วนราคาเนื้อหมูเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีนี้กับปีที่แล้วจะเห็นได้ว่า มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นถึง 66 % บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีการปรับราคาจาก 8 บาท เป็น 10 บาท หรือปรับเพิ่มขึ้น 25 % ส่วนไข่ไก่เพิ่ม 5 % เนื้อไก่เพิ่ม 8 % เฉพาะอาหารที่ได้ระบุตรงนี้ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 % เข้าให้แล้ว
