ดร. จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) พูดถึงตลาดที่ได้ Price in เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยเอาไว้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาหรือ FED จะมีการปรับดอกเบี้ยมากถึง 10 ครั้ง แต่คำถามก็คือ เราจะเตรียมตัวอย่างไร แม้เวลานี้ตลาดรับข่าวไปบางส่วนแล้วแต่สิ่งที่จะต้องติดตามคือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ซึ่งเป็นเรื่องที่ใครหลายคนเป็นกังวล การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ 10 ครั้งถือเป็น Base Case ซึ่งหาก FED จะเอาเงินเฟ้อให้ลงจริง ๆ หรือจะคุมเศรษฐกิจจริง ๆ อาจมีความจำเป็นที่ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่านั้น
สำหรับเหตุผลที่ว่า ทำไมจะต้องปรับอัตราดอกเบี้ยมากไปขนาดนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีความจำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยเพราะเงินเฟ้อ ส่วนในประเทศไทยที่ไม่สามารถขึ้นได้เนื่องจากรายได้ของคนในประเทศยังไม่ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ถ้าไทยขึ้นดอกเบี้ยก็เท่ากับว่าเป็นการซ้ำเติมประชาชน เพราะว่าเงินเฟ้อในไทยหลัก ๆ มาจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น ค่าเงินบาทอ่อนค่า ดังนั้นหากรายได้ไม่ได้เพิ่มแต่ต้นทุนเพิ่ม หากมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นเข้ามาด้วยอีกก็จะยิ่งสร้างความยากลำบากให้แก่ประชาชน
ส่วนแนวทางการจัดพอร์ตการลงทุนนั้น ควรให้น้ำหนักการลงทุนนอกตลาดมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ที่ตลาดเต็มไปด้วยความเสี่ยง เพราะดอกเบี้ยและเงินเฟ้อถือเป็นศัตรูของตลาดการเงิน การลงทุนทั้งในหุ้น และหุ้นกู้ อาจยังไม่ปลอดภัย จำเป็นต้องหาการลงทุนที่ช่วยหลบการขึ้นดอกเบี้ยแรงและเรื่องของเงินเฟ้อได้ นั่นก็คือ ลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด (Alternative Asset) ที่แม้ยังจะมีความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องที่ไม่สูงเท่าหุ้นหรือหุ้นกู้ แต่การลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่อง Mark to Market ในพอร์ตได้ อย่างเช่น ลงทุนใน Private Real Estate หรือ Public Real Estate ขณะเดียวกันมองว่าควรที่จะถือเงินสดไว้ด้วยเพื่อรอจังหวะโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนใหม่อีกครั้ง