tam-eig.com

ถ้าพูดถึงเซียนหุ้นรุ่นใหญ่ เรานึกถึงใครบ้างครับ?

 

วันนี้ทีม ถามอีก กับอิก Tam-Eig รวบรวมพอร์ตที่พี่ ๆ เซียนหุ้นรุ่นใหญ่ 15 ท่านถืออยู่ มาให้ดูกันครับ

 

“ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา พี่ ๆ เซียนหุ้นมีพอร์ตรวมกันกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% ครับ!!” โอวโหดสุด ๆ ครับ (ที่เห็นว่าบางท่านถือน้อย ๆ เข้าใจว่าน่าจะทยอยลดพอร์ต ไปก่อนหน้านี้แล้วครับ)

 

ชื่นชมอย่างเดียวไม่ได้ครับ แต่อยากชวนมาค่อย ๆ พลิกดูว่า แต่ละท่านถือหุ้นตัวไหน

 

แล้วอยากให้ต่อยอดศึกษาวิธีคิด สไตล์การลงทุนแต่ละท่าน และลองคิดดูเพราะอะไรพี่ ๆ เค้าถึงซื้อหุ้นเหล่านี้เข้าพอร์ตครับ

 

ปะ ลุยกัน!

 

ปล.ตอนท้าย “ถามอีก กับอิก” รวบรวมหุ้นที่พี่ ๆ เซียนหุ้นถือซ้ำ ๆ กันไว้ให้ศึกษาต่อแล้วครับ

 

============

 

ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดี ๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ 🙂

 

https://www.youtube.com/channel/UCnj8uUh6SHdZi3FvWJj9Dyw?view_as=subscriber

 

 

 

ดร.นิเวศน์ ปรมจารย์นักลงทุนหุ้นคุณค่าของไทย

 

เท่าที่ดูส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่ไม่หวือหวา เน้นค้าปลีก หุ้นสาธารณูปโภคพื้นฐาน

 

“วิกฤติ โควิด-19 ครั้งนี้มีความแตกต่างจากวิกฤติครั้งก่อน ๆ” “มันเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไปในทิศทางที่บางทีมันก็เปลี่ยนอยู่แล้วเพราะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

 

“โดยเฉพาะทางดิจิตอล แต่วิกฤติทำให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงนั้นเร็วขึ้นมากเพียงแค่ชั่ว “ข้ามคืน”

 

หลัก ๆ ท่านจะให้ดูว่ากิจการที่เราสนใจลงทุน มีคุณภาพ มีความแข็งแกร่งมากกว่าคู่แข่งมากแค่ไหน, มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งไหม? เก่งกว่าคู่แข่งยังไง? มีแบรนด์ loyalty ไหม? มีโอกาสเติบโตไหม และไม่ถูก disrupt ง่าย ๆ

 

และยิ่งช่วงโควิด แบบนี้ก็จะเน้นความมั่งคง และความทนทานให้อยู่รอดผ่านวิกฤตไห้ได้ครับ

 

นี่เป็นตัวอย่างในการมองหากิจการที่มีคุณภาพดีของสไตล์ ดร.นิเวศน์ ครับ

 

นอกจากนี้ระยะหลังดร.นิเวศน์ ท่านก็จะย้ำหลายรอบว่าให้ดูเงินปันผลด้วย เหตุผลเพราะถ้าช่วงตลาดผันผวน อย่างน้อยก็ยังมีเงินปันผลค้ำอยู่ครับ

 

และอีกอย่างที่ย้ำบ่อย คือ ราคาหุ้นต้องไม่แพงเกินไป

 

“ข้อนี้ทำให้หลายคนเจ็บหนักเหมือนกัน เมื่อดูแล้วทุกอย่างดูดี ราคาสูงแค่ไหนก็ซื้อ จึงพลาดไปซื้อหุ้นแพง” ดร.นิเวศน์ ให้ข้อคิดเตือนใจครับ

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=Tam-seLxVh0&t=3927s

 

 

 

พี่หมอ พงศ์ศักดิ์ เป็นท่านที่ทำการบ้านหนักและมีความรู้รอบตัวเยอะมาก

 

“เราเป็นนักลงทุนในธุรกิจ” “ไม่เห็นต้อง ดูธุรกิจเป็นรายวัน” พี่หมอพงศ์ศักดิ์ จะมองว่าตัวเองเป็นเจ้าของบริษัทวิเคราะห์ทุกอย่างทั้งแหล่งที่มาของรายได้, แหล่งที่มาของกำไร ต้นทุนในการผลิต รวมถึงวิธีคิดในการบริหารงาน

 

“ถ้าเป็นในมุมตัวเลขก็จะมองอัตราการเติบโต ปีละ 15-25% และมีขีดความสามารถในการแข่งขันมากกว่าคู่แข่ง” โดยจะไม่ถือหุ้นมากกว่า 8-9 ตัวเพราะจะติดตามไม่ทันและไม่รอบด้าน

 

โดยท่านชื่อว่า การลงทุนคือ การสะสมความรู้ และประสบการณ์ ค่อย ๆ ศึกษาไปเรื่อย ๆ จะทำให้เราประเมินศักยภาพในการเติบโตออก และเมื่อตลาดหุ้นตก เราต้องกล้าที่จะเข้าซื้อหุ้นที่ดี ในช่วงที่เจอแต่ข่าวร้าย

 

แต่ถ้ารู้ว่าคิดผิด ก็พร้อมที่จะขายหุ้นออกไปทันทีไม่ลังเลครับ

 

 

 

พี่ฮง เป็นพี่ชายนักลงทุนที่ผมรู้จักและชื่นชมมานานครับ

 

เป็นอีกหนึ่งท่านที่ศึกษาอะไร ก็ศึกษาให้รู้จริง และทุกครั้งที่มีโอกาสคุยด้วยจะคิดเสมอว่า ท่านคิดได้ยังไง มีอีกหลายมุมมากที่แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่จะได้ข้อมูลมาเหมือนกัน แต่แกจะมีมุมมองที่รอบด้านกว่า ทำให้อ่านเกมได้ขาดมากครับ

 

พี่ฮง แนะนำให้ทำการบ้านหนัก ๆ ในช่วงวิกฤตครับ อย่างที่เราเห็นในอดีตที่ผ่านมา เช่นในตลาดสหรัฐตอนที่เจอวิกฤตรอบที่แล้ว

 

“กว่าศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งใช้เวลานาน กว่าการจ้างงานจะกลับมา ดัชนีของตลาดหุ้นจะขึ้นไปแล้ว 30%” เพราะปกติตลาดหุ้นจะสะท้อนในอนาคต

 

และวิธีในการเลือก ก็แนะนำให้เลือกหุ้นที่มี ROE สูง ๆ เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่ม

 

วิธีคิดไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ

 

 

 

เสี่ยยักษ์ คุณวิชัย วชิรพงศ์ สอนวิธีการมองลงทุนให้เหมือนกับการค้าขายครับ

 

คือ ถ้าเราซื้อของมาแล้วต้องมองให้ออกว่า สินค้าที่เราซื้อมาจะมีมูลค่าเพิ่มแค่ไหนในอนาคต และถ้าเอาไปขายต่อแล้วจะได้กำไรมากเท่าไหร่

 

โดยสไตล์ของท่านก็จะมองหาหุ้นที่ราคาถูก แต่ไม่ใช่ราคาถูกอย่างเดียว แต่ต้องมีโอกาสเติบโตด้วย และเทคนิคในการซื้อคือ ค่อย ๆ ซื้อทีละเล็กทีละน้อย หยั่งเชิงก่อน

 

ถ้าคิดถูก ก็จะสู้ต่อ แต่ถ้าคิดผิดก็จะถอยทันทีไม่ลังเล

 

นอกจากนี้ท่านยังมองว่า นักลงทุนไม่ควรพยายามลงทุนตลอดเวลา เพราะเชื่อว่าตลาดหุ้นมีวงจรเสมอ ซึ่งถ้าตลาดร่วงหนักก็จะเป็นโอกาสในการมองหาหุ้นพื้นฐานดี แต่ช่วงไหนที่ไม่ใช่จังหวะของเราก็สามารถรอต่อไปได้ ไม่ต้องรีบ

 

และถ้าเป็นช่วงนี้ก็แนะนำให้ใช้กราฟ ในกรอบระยะเวลา Month หรือหลักเดือน ก็จะทำให้มีโอกาสพลาดยาก

 

นอกจากนี้เสี่ยยักษ์ ยังให้คำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่ไม่มั่นใจ ให้แบ่งเงินเป็น 10 ส่วน เช่น ซื้อที่ดัชนปัจจุบันไป 1 ส่วน หากลงมาอีกก็ซื้อ 3 ส่วน และถ้าลงไปอีกก็ซื้ออีก 7 ส่วน จากนั้นแล้วปิดจอ

 

เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นำมาใช้ในช่วงตลาดผันผวนครับ

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=IKVqTXKqGVs&t=541s

 

 

 

อ.ไพบูลย์ เป็นอีกท่านที่นักลงทุนไทยและผมเองก็ให้ความเคารพอย่างมากครับ

 

อ.ไพบูลย์ เคยพูดหลายครั้งว่าตัวแกจะไม่ลงทุนในสิ่งที่จะทำให้ใจไม่ดี เป็นหลักเลยอะไรที่ฝืนความรู้สึกในเรื่องของศีลธรรม

 

และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จะต้องรู้จักบริษัทที่เราจะลงทุนจริงๆ เราก็ว่าธุรกิจเขาทำอะไร
เราจะมีใจอิ่มเองเบิกบานเมื่อธุรกิจเขาดีขึ้น และไม่จำเป็นต้องเลียนแบบคนอื่น แนะนำให้หาสไตล์ที่เหมาะกับเราที่สุด

 

และควรเน้นลงทุนระยะยาว เหตุผลคือ คนที่มองไกลมองกว้างจะเห็นภาพได้ชัดกว่าคนที่มองสั้น

 

โห… โดนใจครับ

 

 

 

พี่ไรท์ ประชา เป็นพี่ที่สุขุม ลุ่มลึก

 

เป็นอีกท่านที่ทำการบ้านหนักมากจริง ๆ ครับ ดูหมดทุกอย่างตั้งแต่คุณภาพกิจการ มีโอกาสเติบโตสูง

 

และดูตัวเลขทางการเงิน เช่น ROE หรือผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น แปลเป็นภาษาบ้าน ๆ คือ ช่วงเวลาการคืนทุนจากการลงทุนครับ

 

แต่จุดที่น่าสนใจคือ แกจะประเมิน แนวโน้มศักยภาพของ ROE ในอนาคตของกิจการที่สนใจจะลงทุนด้วยครับ และต้องดูด้วยว่าตอนนั้นกิจการอยู่ในช่วงขยายธุรกิจหรือป่าว เพราะอาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ ROE ต่ำอยู่ ณ เวลานั้น

 

อีกตัวเลขที่พี่ไรท์ มักจะชอบดูคือ กระแสเงินสดครับ (เพราะธุรกิจที่ดี ควรจะมีสภาพคล่อง และเก็บเงินจากลูกค้าได้) บริษัทไหนที่มีกระแสเงินสดดีก็จะมีศักยภาพในการขยายธุรกิจดี และมีหนี้น้อย ๆ

 

นอกจากนี้ควรจะต้องดูความสามารถของทีมผู้บริหาร และมีความซื่อสัตย์

 

แต่หลายครั้งหุ้นที่พี่ไรท์ เลือกเข้าพอร์ตถ้าสังเกตจะเห็น ว่าเป็นหุ้นที่มี P/E แพงพอสมควร แต่พี่ไรท์ มองว่าปกติจะเน้นที่หุ้นที่มีคุณภาพที่ดี หุ้นเกรด A ก่อน คุณภาพเยี่ยม

 

ราคาหุ้นไม่จำเป็นต้องถูกมาก

 

 

 

“พูดจาตรงไปตรงมา อย่างจริงใจ” เป็นสไตล์ที่ทำให้พี่ป๋อง เป็นอีกท่านที่นักลงทุนไทยชื่นชอบอย่างมาก

 

ที่เห็นว่าพอร์ตท่าน ลดลงเป็นเพราะว่าส่วนหนึ่งได้มีการลดพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงในภาวะผันผวนหนักในปีนี้ครับ

 

พี่ป๋อง เล่าให้ผมฟังหลายครั้งว่ากว่าจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมามากครับ

 

ท่านเป็นอีกคนที่การบ้านหนักสุดๆ นั่งดูกราฟตลอด ๆ แม้กระทั่งช่วงกลางคืน เจ้าของวลี “กราฟไม่เคยหลอกใคร” เพราะการกระทำทุกอย่างมันสะท้อนเข้าไปในกราฟหมดแล้ว

 

แต่เท่าที่คลุกคลีกัท่านกจะเห็นว่าจริงๆแล้วพี่ป๋องไม่ได้เก่งเรื่อง กราฟอย่างเดียวนะครับ แต่ยังศึกษาพื้นฐานด้วย อ่านบทวิเคราะห์แบบรัว ๆ ครับ

 

สุดท้ายท่านจะย้ำตลอดว่า ให้พวกเรานักลงทุนรายย่อยหาสไตล์การลงทุนของตัวเองให้เจอครับ แล้วจะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน

 

แต่รายใหญ่จะมีความเสียเปรียบอยู่หน่อย ในแง่ของการเลือกหุ้น เพราะตอนช่วงตลาด panic ขายหนักๆลงมา เวลาที่ท่านจะออกของก็มีปัญหาเหมือนกัน

 

แต่แม้ว่าตลาดหุ้นจะผันผวนหนักก็ตาม พี่ป๋องก็ยังไม่ได้ล้างพอร์ตแล้วเก็บเงินสดอย่างเดียวนะครับ เพราะสไตล์พี่ป๋องก็ยังมีการหยั่งเชิงตลาด เพื่อทดสอบ sentiment อารมณ์ของตลาด

 

“คนเคยซื้อขายทุกวันจะให้หยุดคงยากหน่อย ทุกวันนี้ก็ยังซื้อยังขายทุกวัน” พี่ป๋องบอกครับ แต่ไม่ได้ซื้อเยอะอะไร ตอนนี้ก็เก็บเงินสดไว้รอจังหวะทยอยซื้อ หากสถานการณ์ฟื้นตัว

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=IKVqTXKqGVs&t=541s

 

 

 

พี่โจ ลูกอีสาน เป็นขวัญใจนักลงทุนทั้งประเทศครับ และเป็นไอดอลส่วนตัวของผมด้วยครับ

 

“เจ้ามือที่แท้จริง คือ กำไรของบริษัทจดทะเบียน” พี่โจชวนให้มองว่าการลงทุนให้หุ้นเหมือนการลงทุนในธุรกิจและเชื่อว่าถ้าหุ้นดีจริง สุดท้ายราคาต้องขยับ

 

และถ้าดูไส้ในจะเห็นว่า แกถือหุ้นหลายตัวเหมือนกันครับ เพราะสไตล์การทำการบ้านเป็นแบบจัดหนัก จัดเต็ม อ่านหุ้นแทบจะทุกตัว พลิกหินแทบจะทุกก้อนเลยครับ ทำให้อ่านแวบเดียวก็พอรู้แล้วว่าธุรกิจเป็นยังไง

 

โดยปกติก็จะคำนวณ มูลค่าที่หุ้นควรจะเป็นใน 1 ปีข้างหน้า แล้วมาเปรียบเทียบกับราคาในตลาด ถ้ามีมากก็จะน่าสนใจ

 

นอกจากนี้ก็จะดู ROE ควรจะมากกว่า 15% และ D/E ไม่ควรเกิน 1 เพราะไม่งั้นจะเริ่มมีความเสี่ยง

 

“เศรษฐกิจปีนี้ไม่ดีแน่ แต่เดิมเรามีความหวังจากการท่องเที่ยว การลงทุนจากภาครัฐ แต่สุดท้ายเดือนเดียวทุกอย่างชะงักหมด แม้โรคระบาดไวรัสโคโรนาจะเป็นปัจจัยชั่วคราวแต่ทำให้เกิดแพนิค”

 

เราคาดไม่ได้ว่าจะจบเมื่อไร ต้องสร้างใจก่อนว่า เราลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เก็งกำไร แต่เราสามารถวิเคราะห์คาดการณ์ผลตอบแทนบริษัทที่ลงได้

 

“การลงทุนไม่มีทางลัด ต้องขยันทำการบ้านมาก ๆ”

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=uYHl9QkHpnw&t=26s

 

 

 

พี่พีรนาถ เป็นอีกท่านที่นักลงทุนไทยชื่นชอบครับ และเป็นท่านที่อธิบายหลักคิดได้อย่างเข้าใจง่ายมากครับ

 

พี่พีรนาถย้ำกับผมตลอดว่า ถ้าธุรกิจไหนที่ท่านไม่เข้าใจ ท่านจะไม่ลงทุนเด็ดขาดครับ เพราะแม้ว่าราคาหุ้นจะทำให้เราขาดทุน เราก็จะยังเข้าใจว่าขาดทุนเพราะอะไร ทำให้เห็นโอกาสหรือจริง ๆ แล้วมันคือวิกฤตกันแน่

 

อีกเทคนิคที่น่าสนใจคือ ก่อนจะลงทุนพี่พีจะมองว่าตัวเองเป็นเจ้าของ และมักจะลุยไปดูด้วยตัวเองเช่นหุ้นอสังหาฯ ท่านก็ไม่ได้ดูแค่ตัวเลขในงบอย่างเดียวครับ

 

แต่จะไปถึงที่โครงการและดูด้วยตัวเองว่าดีไหม และบางครั้งก็ยังให้คำแนะนำดี ๆ ให้กับผู้บริหารได้ เพราะส่วนตัวชอบอสังหาฯอยู่แล้ว

 

และอีกอย่างที่ท่านชอบ คือ ชอบดูความสามารถของผู้บริหารว่าเป็นคนยังไง มีวิสัยทัศน์ยังไง แต่ราคาไม่ควรจะแพงเกินไปด้วยครับ

 

 

 

คุณสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ เป็นเซียนหุ้นรุ่นใหญ่ พูดน้อยต่อยหนัก

 

“แนวโน้มตลาดหุ้นเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือตัวหุ้นที่เราสนใจครับ” โดยหลัก ๆ จะมองหาหุ้นที่มีคุณภาพดี บริหารโดยผู้บริหารที่เก่ง

 

และจะดูกำไรของบริษัทประกอบ โดยจะดูย้อนหลัง 5-10 ปี และดูว่าจ่ายเงินปันผลมากหรือป่าว ยิ่งมากยิ่งดี

 

เท่าที่ดูก็จะมีหุ้นในพอร์ตค่อนข้างหลากหลายเหมือนกันครับ เพื่อกระจายความเสี่ยง

โดยเป็นการเปลี่ยนสไตล์จากในอดีตที่เน้นการเก็งกำไรเป็นการลงทุนสไตล์หุ้นคุณค่า

 

 

 

พี่ชาย มโนภาส เป็นนักลงทุนหุ้นคุณค่าที่มีทั้งความสุขุม นุ่มลึก และเป็นผู้รอบรู้มากที่สุดท่านนึงที่ผมเคยรู้จักเลยครับ

 

“ส่วนตัวไม่ได้เก่งกาจที่จะประเมินตลาดได้ว่าเป็นอย่างไร” แต่ความเสี่ยงอย่างนึงที่พี่ชายมองเห็นคือ อัตราดอกเบี้ยต่ำมาก

 

คำถามที่พี่ชาย มักจะได้รับเสมอ คือลงทุนกลุ่มไหนดีสุด คำตอบ คือ แนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่เราเข้าใจ

มองเห็นผลประกอบการในอนาคต มองเห็นศักยภาพในการเติบโต “เราไม่สามารถความบ้าคลั่งตลาด หรือดัชนีได้ สิ่งที่พอประเมินได้คือผลกำไรบริษัท ในระยะสั้นหรือยาว”

 

แต่วิกฤตรอบนี้ สิ่งที่เพิ่มเติมคือต้องวิเคราะห์ความอยู่รอด และความมั่นคงของธุรกิจ ว่าจะสามารถอยู่รอดผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=ZSGmmzqiaZs&t=1266s

 

 

 

คุณนเรศ งามอภิชน เป็นนักลงทุนรุ่นใหญ่อีกท่านที่น่าศึกษาวิธีคิด แต่ว่าค่อนข้าง low profile ครับ

 

เริ่มต้นการลงทุนแบบเก็งกำไร และหลายครั้งก็เคยขาดทุนชนิดที่เรียกว่า กำไรที่เคยได้มาหายไปหมดครับ

 

หลังๆเลยเริ่มเปลี่ยนสไตล์มาเป็น เน้นหุ้นเติบโตมากขึ้น โดยจะลงทุนในหุ้น ไม่เกิน 10 บริษัทและเน้นหุ้นที่มีราคาถูก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงได้

 

 

 

พี่เคน โสรัตน์ นักธุรกิจและนักลงทุน

 

“ธุรกิจที่ดีไม่ได้ขึ้นกับว่าเราอยู่ในอุตสาหกรรมยอดฮิตหรือไม่” “แต่ขึ้นกับว่าใครคือกัปตันเรือ” เป็นประโยคที่ผมยังจำได้ขึ้นใจเลยครับ

 

พี่เคน โสรัตน์ นักลงทุนสายธรรมะ ให้คำแนะนำว่า หุ้นที่ดี คือมีโอกาสเติบโตเฉลี่ย 15-20% และถ้าเจอหุ้นที่เจ้าของทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสร้างมัน ยิ่งดี

 

โดยสไตล์แกอาจจะแตกต่างจากหลายท่าน ที่ จัดหนักจัดเต็มในหุ้นไม่กี่ตัว เพราะผ่านการคิดอย่างรอบคอบแล้ว สิ่งที่แกเน้นย้ำคือ ไม่ควรคาดหวังการลงทุนมากเกินไป เพราะจะทำให้เราเป็นทุกข์ ซึ่งเราควรลงทุนด้วยความสบายใจ

 

 

 

พี่มี่ เป็นนักลงทุนในดวงใจเลยแหละครับ

 

ส่วนตัวที่ผมชอบคือ พี่มี่เป็นท่านที่รอบรู้มาก ๆ และทำการบ้านหนักมากจริง ๆ ครับ

 

สิ่งที่น่าสนใจคือ พี่มี่ จะไม่ใช้ความรุ้สึกในการลงทุนครับ แต่ใช้ข้อมูล ใช้สถิติ เพื่อพิสูจน์ความคิดของเรา

 

“เช่นวิกฤตโควิด-19 เราต้องคิดก่อนเลยว่าพฤติกรรมของคนจะเปลี่ยนไปอย่างไร หรืออะไรจะเปลี่ยนชั่วคราวเป็น abnormal” และพี่มี่จะหาข้อมูลสนับสนุนว่าความเป็นได้เป็นอย่างไร

 

ยกตัวอย่าง อาจจะลองหาข้อมูลดูว่า ที่จีน มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหลังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโควิดได้อย่างไร แล้วธุรกิจไหนกำลังจะมาเป็นต้นครับ แล้วคิดต่อว่าในบ้านเรามีโอกาสเป็นแบบนั้นได้ไหม

 

ส่วนตัวที่ชอบพี่มี่อีกอย่างคือ การคิดสองชั้นครับ มองให้ลึกกว่าคนอื่น เช่นตอนนี้ทุกคนอาจจะกลัวว่าโควิด อาจจะทำให้การท่องเที่ยวพัง

 

แต่พี่มี่จะเข้าไปดูสถิติว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมากที่สุด ติด 1 ใน 10 ของโลก ในขณะที่ไทยกลับเป็นประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อน้อย สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี ทำให้เป็นโอกาสในอนาคต

 

ฝึกคิดอย่างนี้ได้เรื่อย ๆ ก็จะทำให้เราเก่งขึ้นได้เช่นกันครับ

 

============

 

ฟังสัมภาษณ์ ย้อนหลังสุด exclusive ได้ที่นี่ที่เดียวครับ

https://www.youtube.com/watch?v=qIWaIVfzE_E&t=1085s

 

 

 

พี่ท่านนี้เป็นปริศนา ครับ

 

พี่มงคล มีพอร์ตเกือบ 2 หมื่นล้านบาท!! รวยแบบเงียบๆ low profile มาก ๆ ครับ

 

ทำให้ยากที่จะรู้วิธีคิดของแกโดยตรง แต่ถ้าให้วิเคราะห์จากพอร์ตหุ้นที่แกถือ ก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ หุ้นเติบโต เป็นหลัก

 

และถ้าวิเคราะห์มาดีแล้วและมั่นใจตัวไหน ก็จัดหนักจัดเต็ม (พี่มงคล กำไรจากการถือหุ้น บัตรเครดิตหลายเด้งมาก ๆ ครับ และถือนานพอสมควรเลยครับ มองขาดมาก)

 

รอบนี้ก็เห็นการขยับของพอร์ตเหมือนกัน คิดยังไงมาแชร์กันได้นะครับ 

 

 

รวมรายชื่อหุ้นที่พี่ ๆเซียนหุ้นทั้ง 15 ท่านถือหุ้นซ้ำกันบ้าง ไม่ได้บอกให้ซื้อตามนะครับ แต่ให้ไปทำการบ้านกันต่อครับ

 

 

รวมรายชื่อหุ้นที่พี่ ๆ เซียนหุ้นทั้ง 15 ท่านถือหุ้นทั้งหมด อย่าลืมทำการบ้านกันเด้อ

 

============

 

ถ้าไม่อยากพลาดแนวคิดการลงทุนและไอเดียการลงทุนดีๆ อย่าลืมกด subscribe และ กดกระดิ่งนะครับ 🙂

https://www.youtube.com/channel/UCnj8uUh6SHdZi3FvWJj9Dyw?view_as=subscriber

 

Exit mobile version